โอบรับโลกดิจิทัล ในแบบฉบับประตูม้วน วิริยะโลหะกิจ

296
ประตูม้วน วิริยะโลหะกิจข

โอบรับโลกดิจิทัล ในแบบฉบับประตูม้วน วิริยะโลหะกิจ

จากประตูม้วนที่ครองใจคนไทยมากว่า 2 ทศวรรษ วิริยะโลหะกิจกำลังก้าวไปยังอีกหนึ่งหมุดหมายที่สำคัญ นั่นก็คือความยั่งยืนของธุรกิจ โดยมี Digitalization เป็นเครื่องมือสำคัญในการบรรลุเป้าหมาย ” BIMobject ” เป็นการพลิกโฉมการทำงานของโลกแห่งงานออกแบบและงานก่อสร้าง ที่ผ่านมา หลากหลายธุรกิจได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของโลกดิจิทัลแห่งงานออกแบบนี้ รวมถึงวิริยะโลหะกิจ

หลายคนอาจไม่ทราบมาก่อนว่า “เพชรประตูม้วน” ที่ครองใจลูกค้าทั่วประเทศ เป็นสินค้าที่ผลิตโดยบริษัท วิริยะโลหะกิจ จำกัด ที่ดำเนินธุรกิจมากว่า 2 ทศวรรษ และมีสาขากระจายอยู่ทั่วประเทศ ในวันที่โลกเข้าสู่ยุคดิจิทัลแบบเต็มตัว หลายธุรกิจต้องปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ทางการตลาด ไม่เว้นแม้แต่ประตูม้วน รวมถึงผลิตภัณฑ์จากโลหะอื่น ๆ

มีดีมากกว่าแค่ประตูม้วน
นอกจากประตูม้วนหลากหลายรูปแบบ (เช่น ประตูม้วนไฟฟ้า ประตูม้วนอัตโนมัติ ประตูม้วนดึง ประตูม้วนโพลีคาร์บอเน็ต และประตูม้วนอลูมิเนียม) แล้ว วิริยะโลหะกิจยังเชี่ยวชาญในการผลิตสินค้าประเภทเมทัลชีทที่มีคุณสมบัติแข็งแรง ทนทานต่อทุกสภาวะอากาศ ราคาย่อมเยา รวมถึงนั่งร้าน แบบเหล็ก และโครงสร้างเบาคุณภาพดี การันตีจากรางวัลและมาตรฐานที่ได้รับ ไม่ว่าจะเป็น ISO 9001: 2015, Thailand Trust Mark รวมถึง มอก. นอกจากนั้น ประตูม้วนทนไฟยังเพิ่งได้รับมาตรฐาน British Standards และ Made in Thailand certification

ลูกค้าของวิริยะโลหะกิจมีความหลากหลายไม่ต่างจากผลิตภัณฑ์ของบริษัท คุณภูมิกรณ์เล่าให้ฟังถึงกลุ่มลูกค้าว่า

“ปัจจุบัน ลูกค้าส่วนใหญ่คือผู้รับเหมาก่อสร้างอาคารเพื่อการพาณิชย์ เช่น ห้างสรรพสินค้า โกดัง โรงงาน และอาคารพาณิชย์ รวมถึงผู้ออกแบบตกแต่งภายใน แม้ทั้งสองกลุ่มนี้มีวิธีการเลือกและตัดสินใจเลือกสินค้าไม่เหมือนกัน แต่ทั้งสองกลุ่มให้ความเชื่อมั่นในคุณภาพและชื่นชอบในความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ที่เราผลิต เนื่องจากเราเป็นผู้ผลิตประตูม้วนรายแรก ๆ ของประเทศ ผนวกกับการได้รับมาตรฐานสากล”

ไม่ใช่เพียงร้านค้าหรือโรงงาน ประตูม้วนของวิริยะโลหะกิจยังเข้าไปครองใจนักออกแบบอีกด้วย
“ประตูม้วนสามารถสะท้อนอัตลักษณ์ (Identity) ได้อย่างชัดเจน ดังนั้น เราจึงมักเห็นการนำประตูม้วนมา match กับสีสันที่สดใส ตกแต่งเพิ่มเติมด้วยลายฉลุ รวมถึงโพลีคาร์บอเน็ตแบบโปร่งแสง ดังที่เห็นในห้างสรรพสินค้าชั้นนำต่าง ๆ”

“นักออกแบบที่ติดต่อเข้ามามักมองหาประตูม้วนที่มี 3 คุณลักษณะ คือ ใช้งานได้ยาวนาน ป้องกันภัย/ป้องกันโจรกรรมได้จริง และราคาประหยัด ซึ่งทั้ง 3 ส่วนนี้คือจุดเด่นของประตูม้วนของวิริยะโลหะกิจ”

คุณภูมิกรณ์ ยังบอกกับเราว่า “วิริยะโลหะกิจต้องการเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนานวัตกรรมการก่อสร้าง”

โควิด-19 กับธุรกิจของวิริยะโลหะกิจในปัจจุบัน

ในช่วงของการระบาดของโรคโควิด-19 ที่เริ่มมาตั้งแต่ต้นปี พ.ศ. 2563 พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไป ไม่เว้นแม้แต่การซื้อประตูม้วน และผลิตภัณฑ์จากเหล็ก

“ก่อนหน้าโควิด ลูกค้ามักจะเลือกซื้อสินค้าจากหน้าร้านเป็นหลัก และเน้นการใช้เครือข่ายเก่าในการเลือกซื้อสินค้า แต่ปัจจุบัน ลูกค้าหันมาซื้อสินค้าของเราจากทางออนไลน์เป็นส่วนมาก”

แม้ว่าจะเผชิญการเปลี่ยนแปลงอย่างมากใน 2 ปีที่ผ่านมา แต่วิริยะโลหะกิจได้ปรับตัวและมีช่องทางใหม่ ๆ เพื่อบริการลูกค้า

“กลยุทธ์หลักที่บริษัทใช้คือการสร้างจุด touch point และช่องทางการติดต่อใหม่ ๆ ซึ่งเป็นกลยุทธ์ทางการตลาดที่สำคัญที่ช่วยเสริมสร้างความพึงพอใจและประสบการณ์ในการซื้อสินค้าให้กับลูกค้า แต่เราไม่ได้ทิ้งการค้าขายหน้าร้านไปทั้งหมด เพราะเราต้องการให้เกิดการ omnichannel ของบริษัท ซึ่งเป็นการเชื่อมโยงช่องทางการสื่อสารและบริการลูกค้าที่หลากหลายและเชื่อมโยงกันระหว่างแบบออฟไลน์และออนไลน์ เพื่อเข้าถึงลูกค้ามากขึ้น และสร้างประสบการณ์ของลูกค้าให้ใกล้ชิดกับบริษัทมากขึ้น”

พฤติกรรมของลูกค้าที่เปลี่ยนไปในยุคดิจิทัล และการปรับตัวของธุรกิจ

คุณภูมิกรณ์บอกกับเราว่า

“ในอดีต เวลาที่จะเลือกประตูม้วนนั้น การตัดสินใจมาจากเจ้าของบ้านและช่างติดตั้ง แต่รูปแบบการตัดสินใจนั้นเปลี่ยนไป ในปัจจุบัน ผู้มีส่วนตัดสินใจคือเจ้าของบ้าน (B2C) หรือผู้ออกแบบ (B2B) มากขึ้น กระบวนการในการตัดสินใจที่เปลี่ยนไปนี้เป็นเพราะความต้องการที่หลากหลายมากขึ้น ดังนั้น การเลือกประตูม้วนผ่านช่องทางออนไลน์จึงสำคัญ ซึ่งส่งผลให้วัสดุ รูปแบบการขับเคลื่อน และการให้บริการมีมาตรฐานที่สูงขึ้น และต้องการจับต้องได้มากขึ้น ด้วยเหตุนี้ ลูกค้าจึงมักหารีวิวหรือหาข้อมูลต่าง ๆ ในอินเทอร์เน็ตมากกว่าในอดีต”

ไม่เพียงเท่านั้น วิริยะโลหะกิจยังมอบไอเดียในการออกแบบให้กับลูกค้าผ่านการทำ content ที่เกี่ยวกับการออกแบบในรูปแบบต่าง ๆ ผ่านทาง Youtube และ Facebook ด้วยความตั้งใจที่จะทำให้ทุกคนเห็น “ประตูม้วน” ในมุมมองที่กว้างขึ้น

“ถ้าเรานึกถึงประตูม้วน ทุกคนอาจจะมองว่าดูแข็งและออกแบบยาก ช่องทางออนไลน์ที่วิริยะโลหะกิจตั้งใจทำขึ้นมานี้พยายามปรับแนวคิดนี้ เพราะเราสามารถผสมผสานความคงทน แข็งแรงของประตูม้วนเข้ากับความสนุกและความคิดสร้างสรรค์ จนเกิดเป็นงานศิลปะชิ้นหนึ่งได้”

BIMobject ในสายตาของวิริยะโลหะกิจ

BIMobject เป็นการพลิกโฉมการทำงานของโลกแห่งงานออกแบบและงานก่อสร้าง ที่ผ่านมา หลากหลายธุรกิจได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของโลกดิจิทัลแห่งงานออกแบบนี้ รวมถึงวิริยะโลหะกิจ

“วิริยะโลหะกิจดีใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของ BIMobject เพราะเรามองว่าการที่มีโมเดล 3 มิติ และระบบข้อมูลที่ใช้สากล ช่วยส่งเสริมธุรกิจได้เป็นอย่างดี นอกจากนั้นยังช่วยให้นักออกแบบสามารถนำข้อมูลไปใช้ได้จริงและสามารถหาสินค้าได้จริงโดยมีผู้ผลิตจริงที่อยู่ในประเทศ”

คุณภูมิกรณ์ทิ้งท้ายไว้ว่า “BIMobject ทำให้เราเข้าไปนั่งในใจของนักออกแบบ และลูกค้าได้ง่ายขึ้น”

จากประตูม้วนที่ครองใจคนไทยมากว่า 2 ทศวรรษ วิริยะโลหะกิจกำลังก้าวไปยังอีกหนึ่งหมุดหมายที่สำคัญ นั่นก็คือความยั่งยืนของธุรกิจ โดยมี Digitalization เป็นเครื่องมือสำคัญในการบรรลุเป้าหมาย