www.alivearound.com

เทศกาลสงกรานต์ใกล้เข้ามาทุกที หากช่วงสงกรานต์ปีนี้คุณยังไม่รู้ว่าจะไปเล่นน้ำที่ไหน แอดมินขอแนะนำ 5 จุดเล่นน้ำสงกรานต์62 ดับร้อนรับสงกรานต์ จะมีที่ไหนกันบ้างไปเช็คกันเลย!!! สงกรานต์เมษาผ้าขาวม้าสนั่นโลก สงกรานต์แบบไทยใจกลางเมืองที่จัดขึ้นบริเวณสยามแสควร์ กรุงเทพฯ กับกิจกรรมความสนุกส์มากมายที่จัดมาให้ทั้ง ช็อป ชิม ชิล สาดกันให้มันส์ท่ามกลางอากาศที่ร้อนระอุ งานนี้เริ่มมันส์กันได้ตั้งแต่วันที่ 13-15 เมษายน เวลา 12.00-18.00 บอกเลย ฟรี!!ตลอดงาน แล้วอย่าลืม!!นุ่งผ้าขาวม้า-ใส่ชุดไทยกันนะจ๊ะ สงกรานต์พระประแดง สมุทรปราการ อีกงานเทศกาลที่เป็นที่กล่าวขานกันมานาน กับวัฒนธรรมแบบชาวไทย-รามัญที่จัดขึ้นบริเวณที่ว่าการอำเภอพระประแดงและถนนโดยรอบ ซึ่งภายในงานจะได้สัมผัสกับบรรยากาศการละเล่นแปลกตาอย่าง สะบ้ารามัญ, ชมขบวนแห่บุปผาชาติ, สรงน้ำพระ,รดน้ำขอพรผู้ใหญ่ และเล่นน้ำสงกรานต์ ไปร่วมเพลินกันวัฒนธรรมชาวไทย-รามัญกันได้ ตั้งแต่วันที่19-21 เมษายนนี้ สงกรานต์ท่าแพ เชียงใหม่ สถานที่ที่ถือได้ว่าเป็นซิกเนเจอร์ของเชียงใหม่ ที่เล่นน้ำยอดฮิตที่ไม่ว่าจะเป็นคนท้องถิ่นหรือนักท่องเที่ยวต่างต้องไปเยือน เพื่อได้สัมผัสบรรยากาศความเป็นกลิ่นอายของเชียงใหม่ในยุคโบราณ ซึ่งนอกจากจะเป็นสถานที่เล่นน้ำหลักแล้ว ยังเป็นสถานที่จัดแสดงนางรำและขบวนแห่ต่างๆด้วยเช่นกัน ซึ่งถือได้ว่าเป็นเมืองต้องห้ามพลาดเลยทีเดียว สงกรานต์ถนนข้าวเหนียว ขอนแก่น อีกหนึ่งแห่งที่ไม่ไปเช็คอินคือพลาด!! กับเทศกาล‎ดอกคูณเสียงแคนและถนนข้าวเหนียว 2562 ถนนข้าวเหนียว แห่งเมืองขอนแก่น สถานที่ที่ควรไปเช็คอินอีกหนึ่งแห่ง เพราะทางจังหวัดได้มีการปิดถนนข้าวเหนียวเพื่อสร้างความสุข สนุก และร่วมกันเล่นคลื่นมนุษย์ที่ยาวที่สุดในโลกท่ามกลางน้ำสงกรานต์ที่ชุ่มฉ่ำ แล้วไปร่วมกันเป็นคลื่นมนุษย์ที่ยาวที่สุดในโลกได้ที่สงกรานต์ถนนข้าวเหนียว ตั้งแต่วันที่ 12-15 เมษายนนี้  สงกรานต์สมุย สุราษฎร์ธานี ที่สุดท้ายที่แอดมินอยากนำเสนอที่สุด แหล่งเล่นน้ำสุดมันส์ที่คุณจะได้พบกับชาวต่างชาติมากหน้าหลายตา ที่พร้อมใจกับมารับความชุ่มฉ่ำของน้ำสงกรานต์ พร้อมกับกิจกรรมดนตรีสุดมันส์ที่เอาใจสายแดนซ์กันเต็มๆ ไปมันส์กับเสียงเพลงท่ามกลางสายน้ำที่เกาะสมุยกันได้ ตั้งแต่ 12-14 เมษายน 2562 บริเวณถนนเลียบหาดเฉวง เซ็นทรัล เฟสติวัล สมุย

สงกรานต์จะไปต่างจังหวัดคนก็เยอะ แต่อยู่กรุงเทพฯ จะไปไหนดีละ ? อยากจะบอกว่าไม่ต้อง Worry จ้า เพราะวันนี้เรามาแจกจุ จุดล่นน้ำสงกรานต์ 62 จำนวน 5 ที่ ดังนี้ S2O Songkran Music Festival 2019 S2O Songkran Music Festival หรืองาน S2O ถือเป็นการเฉลิมฉลองเทศกาลสงกรานต์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลก! ที่สาย EDM นั้นห้ามพลาดไปออกสเต็ป ซึ่งปีนี้จัดหนัก จัดเต็ม จัดจนลืมวันลืมคืน ตลอด 3 วันเต็ม ๆ ณ LIVE PARK บนถนนพระราม 9 เพราะนอกจากจะได้ดื่มด่ำไปกับสายน้ำที่เย็นฉ่ำและเพลงมัน ๆ แล้วยังได้สัมผัสบรรยากาศกรุงเทพมหานครตอนกลางคืน บอกเลยว่าไม่ควรพลาดอย่างแรง Days: 13-15 เมษายน 2562 Location: Live Park ถนนพระราม 9 กรุงเทพมหานคร Route66 Presents Summer Party 2019 สงกรานต์ทั้งทีขาดไม่ได้เลยสำหรับ Route66 แหล่งรวมหนุ่มสาวหน้าตาดี ใจกลาง RCA โดยปีนี้จัดเต็มให้...

สงกรานต์นี้ Airbnb จัดกิจกรรมชิงรางวัลทริปท่องเที่ยวฟรีทั้งครอบครัว ชวนคนไทยเปิดประสบการณ์ค้นพบเมืองไทยในมุมมองใหม่ Airbnb แพลตฟอร์มท่องเที่ยวระดับโลก จัดแคมเปญต้อนรับเทศกาลสงกรานต์ ชวนคนไทยร่วมกิจกรรมชิงรางวัลทริปท่องเที่ยวในเมืองไทยฟรีทั้งครอบครัว ทั้งนี้เพื่อฉลองความหมายของเทศกาลสงกรานต์ที่แท้จริง การฉลองปีใหม่ไทยด้วยการใช้เวลากับครอบครัวอยู่ด้วยกันพร้อมหน้าพร้อมตา ค้นหาผู้ชนะ 4 ท่านและครอบครัวออกไปเปิดประสบการณ์สัมผัสความเป็นไทยในมุมมองใหม่ กิจกรรมชิงรางวัลทริปท่องเที่ยวฟรีในเมืองไทย จะค้นหาผู้ชนะ 4 ท่านพร้อมครอบครัว (ไม่เกิน 5 ท่านต่อครอบครัว) สามารถเลือกเดินทางไปเปิดประสบการณ์ในจุดหมายปลายทาง 4 แห่ง คือ กรุงเทพฯ,สระบุรี, เชียงใหม่ หรือ ภูเก็ต ช่วงวันไหนก็ได้ในปี 2562 โดยทริปดังกล่าวรวมตั๋วเครื่องบิน, ที่พัก Airbnb 4 วัน 3 คืน และการเข้าร่วมกิจกรรมประสบการณ์ Airbnb Experiences สูงสุด 3 รายการ ทุกคนสามารถร่วมกิจกรรมลุ้นรางวัลนี้ ด้วยวิธีง่ายๆ ใน http://th.airbnb.com/s/songkranthailand ก่อนวันที่ 20 เมษายน 2562 นี้ เลือกจังหวัดที่คุณและครอบครัวต้องการไปท่องเที่ยวได้แก่ กรุงเทพฯ, สระบุรี, เชียงใหม่ และภูเก็ต ระบุเหตุผลว่า ทำไมจึงพาครอบครัวของคุณไปจังหวัดนั้น  (ไม่เกิน 800 ตัวอักษร) ผู้ชนะทั้ง 4 ครอบครัวจะได้ไปสัมผัสกับการต้อนรับแบบไทยแท้ในบ้านพักของ Airbnb และยังมีโอกาสได้เรียนรู้วัฒนธรรมไทยจากผู้เชี่ยวชาญท้องถิ่นผ่านกิจกรรมประสบการณ์งานฝีมือต่างๆ ใน Airbnb Experiences ‘สงกรานต์’ เป็นเทศกาลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดงานหนึ่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งคนไทยและนักท่องเที่ยวต่างใช้งานแพลตฟอร์ม Airbnb มากขึ้นทุกปีในการเลือกที่พักอันเป็นเอกลักษณ์ในช่วงเทศกาลดังกล่าว ซึ่งในปีนี้มีนักท่องเที่ยวจองที่พักผ่าน Airbnb เพื่อท่องเที่ยวช่วงเทศกาลสงกรานต์ในไทยเพิ่มขึ้นกว่า 50% จากปีที่ผ่านมา ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางของการท่องเที่ยวที่ไม่เคยทำให้ผิดหวังในเรื่องของการสร้างความประหลาดใจและความสุข สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของแขกที่พักกับ Airbnb ในปีนี้ ได้แก่ กรุงเทพฯสวรรค์ของนักช็อปและนักเดินทาง เชียงใหม่ เมืองแห่งศิลปะและวัฒนธรรม สระบุรี เมืองแห่งทิวทัศน์อันสวยงามและการผจญภัย และ ภูเก็ต เมืองแห่งสถาปัตยกรรมแบบชิโนโปรตุกีสและสวรรค์แห่งการพักผ่อน Airbnb เป็นแพลตฟอร์มที่ขับเคลื่อนด้วยพลังของชุมชนและคนในท้องถิ่น โดยเจ้าของบ้าน และผู้จัดกิจกรรมต่างแบ่งปันประสบการณ์อันเป็นเอกลักษณ์ของสถานที่ต่างๆ ในท้องถิ่นทั่วไทยใน(https://th.airbnb.com/s/songkranthailand) ซึ่งบ้านพักของ Airbnb และกิจกรรมประสบการณ์ต่างๆ ต่างได้รับความนิยม อาทิ การเดินชมวัฒนธรรม Unseen Chinatown เป็น Airbnb Experiences ที่ผู้คนชื่นชอบมากที่สุดบนอินสตาแกรมในปี 2018 มิสเตอร์ไมค์ ออร์กิล (Mike Orgill) ผู้จัดการทั่วไปประจำเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ฮ่องกง และไต้หวันกล่าวว่า “เราต้องการช่วยกระตุ้นการเดินทางภายในประเทศไทยด้วยแรงบันดาลใจที่เกิดขึ้นระหว่างนักเดินทางกับเจ้าของบ้านพักคนไทย ให้พวกเขาได้ค้นพบสิ่งใหม่ตลอดทั้งปี นอกจากนั้น เทศกาลสงกรานต์ยังช่วยสร้างรายได้ทางเศรษฐกิจมหาศาลสู่คนในท้องถิ่นและเจ้าของธุรกิจขนาดเล็ก โดยเจ้าของบ้านพักAirbnb กว่า 75% มักไม่ได้อยู่ในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม จึงเป็นการกระจายรายได้การท่องเที่ยวสู่คนท้องถิ่นให้มีรายได้จากการเปิดบ้านให้เป็นที่พักรวมถึงร้านค้าต่างๆ ที่อยู่รายรอบบ้านพักของ Airbnb”

ร้านข้าวแช่ ในกรุงเทพ แก้ร้อนเดือนเมษายนนี้ ร้านข้าวแช่ ในกรุงเทพ - "เมษายน" ได้ยินชื่อเดือนนี้ทีไรก็รับรู้ได้ทันทีว่าเป็นเดือนที่ประเทศไทยจะร้อนที่สุดของปีเลย ร้อนขนาดนี้เราก็ต้องหาวิธีคลายร้อนแบบที่ชอบแบบที่ใช่ให้ตัวเองกัยสักหน่อย วันนี้เรามีวิธีคลายร้อนแบบไทยๆ มาบอกกัน กับเมนูอาหารที่หลายคนได้ชิมแล้วก็ต่างหลงรักกับเมนู “ข้าวแช่” ซึ่งเราจะมาแนะนำกันว่า 4  ร้านข้าวแช่ในกรุงเทพฯ นั้น มีอยู่ที่จุดไหนกันบ้าง ตามมาดูกันเลย ร้าน ข้าวแช่แม่ศิริ เริ่มต้นกันที่ร้านแรกกันก่อนเลยกับร้าน ข้าวแช่แม่ศิริ ที่นี่จะมีรสชาติแบบตำรับมอญ พร้อมเสิร์ฟชุดข้าวแช่เย็นๆ ดับร้อนได้อย่างชื่นใจ ซึ่งร้านข้าวแช่แม่ศิรินั้นตั้งอยู่ที่ซอยไกรสีห์ ถนนพระสุเมรุ เขตพระนคร กรุงเทพฯ ร้านเปิดบริการทุกวัน เวลา 11.00 - 16.00 น. โทร. 08-1448-9924   บ้านวรรณโกวิท ต่อด้วยร้านบ้านวรรณโกวิท ที่ขอแนะนำการรับประทานข้าวแช่ที่ถูกต้องว่าควรเริ่มต้นจากลูกกะปิ ตามด้วยปลาหวานและเครื่องคาวอื่นๆ ที่สำคัญคือเมื่อตักกับเสร็จแล้ว จึงตักข้าวพร้อมซดน้ำลอยเย็นชื่นใจ ซึ่งบ้านวรรณโกวิทนั้นตั้งอยู่ที่ 64 ซอยดำเนินกลางใต้ ถนนราชดำเนินกลาง เขตพระนคร กรุงเทพฯ เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 11.00-15.00 น. (หยุดทุกวันจันทร์) โทรติดต่อได้ที่ 081-922-6611   บ้านแม่ยุ้ย ร้านข้าวแช่ร้านต่อไปขอแนะนำเป็นร้านที่เปิดขายมายาวนานกว่า 20 ปี ที่ บ้านแม่ยุ้ย ใครๆ ต่างต้องมาลองชิม เมนูข้าวแช่สูตรราชครู ที่เสิร์ฟข้าวสวยในน้ำแร่ลอยดอกมะลิ พร้อมเครื่องเคียงแบบครบชุดตามตำรับสูตรราชครูที่มีเอกลักษณ์ โดยร้านข้าวแช่บ้านแม่ยุ้ยนั้นจะมีอยู่ด้วยกัน 3...

ผักเกษตรอินทรีย์ แตกต่างจากผักไฮโดรโปนิกส์อย่างไร มีคนจำนวนมากเข้าใจว่า ผักไฮโดรโปนิกส์ คือ ผักอินทรีย์ หรือเรียกอีกอย่างว่าผักออร์แกนิคซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ผักไฮโดรโปนิกส์ไม่ใช่ผักอินทรีย์หรือผักออร์แกนิค ความหมายของผักเกษตรอินทรีย์ และผักไฮโดรโปนิกส์สามารถอธิบายได้ดังต่อไปนี้ ผักเกษตรอินทรีย์ หรือผักออร์แกนิค คือ ผักที่ได้จากการทำการเกษตรแบบอินทรีย์ หมายถึงระบบการผลิตพืชที่ไม่ใช้สารเคมีทุกชนิดในทุกขั้นตอนการปลูก ไม่ว่าจะเป็นปุ๋ยเคมี สารเคมีกำจัดศัตรูพืช กำจัดวัชพืช ฮอร์โมนสังเคราะห์ สามารถใช้ได้แค่ปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยชีวภาพ และปุ๋ยพืชสดเท่านั้น  การจัดการพื้นที่เพาะปลูก ไม่ให้ปนเปื้อนกับแปลงปลูกพืชแบบเคมี และห่างไกลจากแหล่งมลภาวะ เช่น โรงงานอุตสาหกรรม หรือถนนหลัก รวมทั้งยังต้องมีการจัดการระบบน้ำที่ใช้ไม่ให้มีความเสี่ยงต่อการปนเปื้อนของสารเคมีและสารต้องหามอื่นๆ ตัวอย่างข้อกำหนดของการปลูกผักอินทรีย์ ห้ามใช้สารเคมีสังเคราะห์ทุกชนิด เน้นการปรับปรุงดินด้วยอินทรียวัตถุ เช่น ปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยชีวิภาพ ตลอดจนการปลูกพืชหมุนเวียน เพื่อให้พืชแข็งแรงมีความต้านทานต่อโรคและแมลงศัตรูพืช ป้องกันการปนเปื้อนของสารเคมีจากภายนอกฟาร์ม ทั้งดิน น้ำ และอากาศโดยสร้างแนวกันชนด้วยการขุดคูหรือปลูกพืชยืนต้นหรือพืชล้มลุก การกำจัดวัชพืช ใช้การเตรียมดินที่ดี และแรงงานคนหรือเครื่องมือกลแทนการใช้สารเคมีกำจัดวัชพืช เคารพสิทธิมนุษย์และสัตว์ เช่นการใช้ปุ๋ยคอกจะต้องมาจากฟาร์มที่เลี้ยงสัตว์แบบปล่อยตามธรรมชาติไม่ได้กักขังเป็นต้น รักษาความหลากหลายทางชีวภาพโดยการรักษาไว้ซึ่งพันธุ์พืชหรือสัตว์ สิ่งมีชีวิตทุกชนิดที่มีอยู่ในท้องถิ่น ตลอดจนปลูกหรือเพาะเลี้ยงขึ้นมาใหม่ ผักไฮโดรโปนิกส์ คือ ผักที่ได้จากระบบการปลูกแบบไฮโดรโปนิกส์ ไฮโดรโปนิกส์มาจากภาษาอังกฤษคือ Hydroponics คำว่า Hydroponics มาจากการรวมคำในภาษากรีกสองคำ คือคำว่า Hydro หมายถึงน้ำ และคำว่า Ponos...

คิดใหญ่ ใจกบฏ โทษนั้นสำคัญนัก! ประวัติศาสตร์ย่อมมีข้อขัดแย้ง แต่การบันทึกเรื่องราวของประวัติศาสตร์ ต้องค้นคว้าหาข้อมูล เพื่อนำมาอ้างอิง แต่ถึงอย่างไร? เราก็ควรให้ความสำคัญกับประวัติศาสตร์ เช่นเดียวกับบันทึกเรื่องราวของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ซึ่งปัจจุบันมีหนังสือมากมายหลากหลายเล่มที่เขียนบันทึกในอดีตของประวัติศาสตร์ให้เราได้ศึกษา แต่เท่าที่อ่านหนังสือแนวประวัติศาสตร์มีเพียงเล่มหนึ่งที่น่าติดตาม ค้นหา จากหนังสือประชุมพงศาวดารภาคที่ 6 โดย สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงอธิบายว่า นอกจากเฉลิมพระนาม สมเด็จพระบรมราชาที่ 4 แล้ว หนังสือเก่าเรียกพระองค์ว่า “ขุนหลวงตาก” บ้างเรียก “เจ้ากรุงธนบุรี” และ “พระเจ้ากรุงธนบุรี” ในสมัยสมเด็จพระเจ้าตากสินมีก๊กหรือชุมนุมต่างๆ ตั้งตัวแข็งข้อ แต่ด้วยความสามารถของพระเจ้ากรุงธนบุรี และแม่ทัพที่เข้มแข็ง ทำให้การปราบชุมนุมต่างๆ ประสบกับชัยชนะ ทำให้อาณาเขตของพระเจ้ากรุงธนบุรีกว้างขวางมากที่สุด ชุมนุมที่คิดกบฏ ยึดอำนาจตั้งตนเป็นใหญ่ จุดจบ! คือ “ประหาร” ยุคนั้นมีชุมนุมเจ้าพิมาย มีกรมหมื่นเทพพิพิธ ตั้งตัวเป็นใหญ่ขึ้นที่เมืองพิมาย เขตจังหวัดนครราชสีมาในปัจจุบัน ชาวเมืองเรียก “เจ้าพิมาย” ปกครองด้านตะวันออกเฉียงเหนือตลอดจนเมืองสระบุรี ทิศเหนือจดแดนลานช้าง ตะวันออกจดแดนกัมพูชา นับว่าเป็นชุมนุมที่ใหญ่มาก กรมหมื่นเทพพิพิธ เป็นโอรสของพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ เคยมีความผิดฐานคิดกบฏต่อพระเจ้าเอกทัศน์ ถูกเนรเทศไปอยู่เกาะลังกา แต่ได้กลับมาเกลี้ยกล่อมคนไทยช่วยรบพม่า แต่ก็ต้องพ่ายพม่า สุดท้ายหนีไปอยู่เมืองนครราชสีมา ได้กำจัดเจ้าเมืองนครราชสีมา และยึดอำนาจตั้งตนเป็นเจ้าเมือง ครั้นพวกพ้องของน้องพระยานครราชสีมา เจ้าเมืองพิมายเดิม ได้ทำการเกณฑ์คนมายึดอำนาจคืนได้สำเร็จ แต่ด้วยความที่สงสารกรมหมื่นเทพพิพิธ จึงได้นำตัวไปคุมขังที่เมืองพิมาย หลังจากที่เสียกรุงศรีอยุธยา พม่ากวาดต้อนผู้คนและเจ้านายในพระราชวงศ์ไปเมืองพม่า...

ถ้าพูดถึงรองเท้าสุขภาพ หลายคนคงจะนึกถึงรองเท้าที่ใส่แล้วสุขภาพดี เดินแล้วไม่ปวดเท้า หรือเวลาที่เรายืนนานๆ แล้วรู้สึกสบายไม่ปวดเท้า ซึ่งวันนี้เราจะมาแนะนำว่า รองเท้าสุขภาพคืออะไร และเราสามารถเลือกซื้อรองเท้าเพื่อสุขภาพได้อย่างไร รองเท้าสุขภาพคืออะไร ใส่แล้วสบายเท้า ทั้งพื้นรองเท้า และความยืนหยุ่นของรองเท้า น้ำหนักเบาพิเศษ เวลารู้สึกสบาย พื้นกันลื่นได้เป็นอย่างดี ป้องกันการล้ม อุบัติเหตุ ระบายอากาศได้ดี ด้วยวัสดุที่ระบายอากาศได้ดี นุ่มไม่กัดเท้า ใส่แล้วไม่ทรมาณ ออกแบบให้สามารถปรับสมดุลร่างกายได้ มีปุ่มนวดเท้า เพื่อเป็นการกดจุดตามหลักวิทยาศาสตร์ รองเท้าแบบไหน เหมาะสำหรับคุณ รองเท้าสุขภาพเหมาะสำหรับใครบ้าง สำหรับคนที่เท้าผิดประเภท หารองเท้ายาก กระดูกโปน สำหรับคนที่ยืนหรือเดินเป็นเวลานาน สำหรับผู้ป่วยเบาหวาน ที่จะต้องเกิดแผลไม่ได้เป็นอันขาด สำหรับผู้สูงอายุ ที่มีอาการรองช้ำ ต้องการพื้นที่นุ่มเป็นพิเศษ สำหรับผู้ที่เท้าผิดปกติ เท้าใหญ่เกินไป เท้าเล็กเกินไป เท้าอูมเกินไป รองเท้าเพื่อสุขภาพ ปัจจุบันมีอยู่หลายยี่ห้อทั้งที่ผลิตในไทยและต่างประเทศ ราคาก็แตกต่างกันไป คนส่วนใหญ่เวลาเลือกซื้อรองเท้าสักหนึ่งคู่ อย่าลืมนึกถึงสุขภาพของตนเองด้วยนะครับผม

5 แอพเช็คเส้นทาง ที่คนใช้รถยนต์ ควรโหลดติดมือถือ ช่วงเทศกาลแบบนี้ ใครที่เป็นคนขับรถจะรู้ดีว่า อาจมีการจราจรที่ติดขัด ซึ่งถ้าเราโหลดแอพเชคเส้นทางเอาไว้ ก็จะมีส่วนช่วยในการวางแผนการเดินทาง หรือหาเส้นทางใหม่ๆ ที่ช่วยหลีกเลี่ยงการจราจรได้ มาดูกันเลยว่ามีแอพอะไรบ้าง Google Maps แอพแผนที่นำทาง ที่ทุกคนน่าจะคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี นอกจากจะมีแผนที่ๆ อัพเดทตลอดเวลาแล้ว ยังสามารถตรวจสอบสภาพการจราจร และใช้ในการหาสิ่งอำนวยความสะดวกในพื้นที่ใกล้เคียง เช่น ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ปั้มน้ำมัน โรงแรม ได้อีกด้วย JS100 แอพจากวิทยุ จส 100 ที่เราคุ้นเคย ซึ่งในบางครั้ง จะมีความ Real Time มากกว่า Google Maps ในแง่ของการรายงานอุบัติเหตุในจุดต่างๆ Highway Traffic แอพจากของกรมทางหลวง ที่ให้เราสามารถตรวจสอบสภาพการจราจรแบบ Real Time ผ่านกล้อง cctv พร้อมความสามารถในการแสดงข้อมูลความคล่องตัวของการจราจร และทีเด็ดที่สุดคือ เป็นแอพที่ช่วยหาห้องน้ำตามทางหลวงแผ่นดิน เผื่อเวลาที่คนขับหรือคนนั่งเกิดปวดขึ้นมากะทันหัน PTT Life Station แอพจาก ปตท. ที่ช่วยในการค้นหาจุดพักรถที่ใกล้ที่สุด ในกรณีที่ต้องการเติมน้ำมัน แวะเข้าห้องน้ำ แวะทานอาหาร ซื้อกาแฟหรือขนม เป็นต้น

หนีร้อนจากไทย ไปเที่ยวประเทศไหนดีนะ ? ต้อนรับวันหยุดยาวในช่วงสงกรานต์แบบนี้ ด้วยการหาทริปดีๆ ไปหลบร้อนกันดีกว่า เพราะช่วงเวลาเทศกาลหยุดยาวๆ มีแค่ปีละครั้งเท่านั้น ตอนนี้จึงเป็นโอกาสดีที่เราจะพาครอบครัวออกไปสัมผัสประสบการณ์ครั้งใหม่ และยังเป็นการได้ใช้เวลาร่วมกับคนที่เรารักอีกด้วย แต่ว่าเราจะหนีร้อนไปที่ไหนนั้น ตามมาดู 5 ประเทศน่าเที่ยวช่วงสงกรานต์กันดีกว่า   ประเทศญี่ปุ่น หนีร้อนประเทศแรกนั้น เราขอแนะนำเป็นประเทศแถบเอเชียด้วยกันก่อนเลย แม้ว่าจะเป็นประเทศในเอเชีย แต่อากาศก็แตกต่างจากเมษาหน้าร้อนของเราอย่างมาก ซึ่งที่นั่นก็คือประเทศญี่ปุ่นนน และการที่เราไปเที่ยวญี่ปุ่นช่วงเดือนนี้เราจะได้พบกับช่วงดอกซากุระบานพอดี โดยดอกซากุระนั้นจะเริ่มจากเมืองด้านล่างขึ้นบน ก่อนจะปักหมุดไปที่เมืองไหนนั้น อย่าลืมเช็คช่วงเวลาที่ซากุระบานก่อนนะ เดี๋ยวจะไปเสียเที่ยว   ประเทศเกาหลี ต่อกันที่ประเทศที่สองๆ ไม่ใกล้ไม่ไกลเมืองไทยที่ดินแดนแห่งโสมกับประเทศเกาหลีใต้ ช่วงเมษายนแบบนี้ที่ประเทศเกาหลีจะอากาศดีมากๆ และใครที่ชื่นชอบวัฒนธรรมแบบเกาหลีก็ต้องไปลองเที่ยวตอบพระราชวังต่างๆ ของที่นี่ นอกจากนี้เรื่องแขงเมนูอาหารเกาหลีนั้นก็อร่อยเด็ดไม่แพ้ใคร ถ้าไปถึงเกาหลีแล้วล่ะก็ต้องลองชิมรสชาติอาหารแบบต้นตำหรับดูสักครั้ง   ประเทศเนเธอร์แลนด์ ช่วงเดือนเมษายนนั้นจะเป็นช่วงที่น่าบินไปเที่ยวที่ประเทศเนเธอร์แลนด์มากๆ โดยเราขอแนะนำให้ไปเยือนที่ Keukenhof Garden สวนดอกไม้ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งจะอยู่ทางตอนใต้ของประเทศเนเธอร์แลนด์ ที่นี่จะเป็นช่วงที่ทุ่งดอกทิวลิปหลากสีแข่งกับแบ่งบานเต็มทุ่ง ได้ฟีลเหมือนอยู่ในเทพนิยายเลยทีเดียว ความสวยงามแบบนี้ คุณต้องไปสัมผัสด้วยตัวเองให้ได้สักครั้งในชีวิต   หมู่เกาะมัลดีฟส์ เที่ยวทะเลให้สดชื่นกว่าที่เคย ด้วยทะเลต่างประเทศที่มาพร้อมบรรยากาศสุดโรแมนติกที่หมู่เกาะมัลดีฟส์ ให้คุณได้ย่ำเท้าลงบนหาดทรายขาวละเอียด สัมผัสน้ำทะเลใสแจ๋ว พร้อมลมทะเลเบาๆ ปะทะผิว ช่วยให้สงกรานต์ปีนี้ของคุณเป็นปีที่น่าจดจำ ไม่ว่าจะไปเที่ยวกับครอบครัวหรืคนรักท่ามกลางบรรยากาศแบบนี้ ก็อบอุ่นใจทั้งนั้น   ประเทศออสเตรเลีย หากคุณกำลังมองหาประเทศอากาศเย็นสบายละก็ มีอีกที่หนึ่งที่คุณห้ามพลาด นั่นก็คือที่มหานครซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย โดยอุณหภูมิช่วงนี้จะอยู่ที่ 15-25 องศาเซลเซียส และช่วงนี้ยังถือเป็นช่วง Low Season ของที่นี่อีกด้วย ราคาตั๋วเครื่องบินและบริการต่างๆ นั้นจะมีราคาไม่แพงด้วย ถือเป็นช่วงที่น่าไปเยือนประเทศออสเตรเลียมากๆ ค่ะ   เป็นยังไงกันบ้างคะ...

5 ที่เที่ยวคลายร้อน 2019 ซัมเมอร์นี้ต้องไปโดน ก้าวเข้าสู่เดือนที่ร้อนที่สุดของปีอย่างเดือนเมษายน เดือนที่มีวันหยุดยาวเยอะที่สุด หลายๆ อาจไม่ได้มีโปรแกรมไปเล่นน้ำสงกรานต์ที่ไหน ก็คงจะเริ่มมองหาที่เที่ยวพักผ่อนคลายร้อนกันแล้ว หากใครยังไม่มีไอเดียสำหรับแพลนเที่ยวในวันหยุดยาวนี้ เรามี 5 ที่เที่ยวน่าไปมาชวนคุณไปคลายร้อนให้เย็นฉ่ำ ซึ่งจะเป็นที่ไหนบ้างนั้นตามมาดูกันเลย หมู่เกาะชุมพร อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะทะเลชุมพร เป็นสถานที่ท้องเที่ยวสำคัญของจังหวัดชุมพร นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะมาที่นี่เพื่อดำน้ำดูปะการังดำที่หาชมได้ยากและความอุดมสมบูรณ์ใต้ท้องทะเล ซึ่งที่หมู่เกาะชุมพรนั้นจะประกอบไปด้วย เกาะทะลุ เกาะกระโหลก เกาะง่ามใหญ่ และเกาะง่ามเล็ก ใช้เวลาการเดินทางจากชายฝั่งถึงหมู่เกาะง่ามประมาณ 1 ชั่วโมงเท่านั้น   เกาะไข่ เกาะไข่ จังหวัดสตูล เกาะไข่นั้นมีลักษณะเป็นเกาะเล็กๆ ในอุทยานแห่งชาติตะรุเตา ภายในเกาะนั้นขึ้นชื่อเรื่องหาดทรายที่มีเม็ดทรายสีขาวนวลละเอียด ปะการังในย่านนี้ส่วนใหญ่นั้นจะเป็นปะการังเขากวาง เหมาะสำหรับมาพักผ่อนคลายร้อน เล่นน้ำทะเลพร้อมชมธรรมชาติของทะเลอันดามันอันสวยงามของประเทศไทย   หมู่เกาะสุรินทร์ แม้ว่าจะชื่อ “หมู่เกาะสุรินทร์” จนอาจทำให้หลายคนสับสนว่าหมู่เกาะนี้ตั้งอยู่ที่จังหวัดสุรินทร์รึเปล่า ต้องแจ้งให้ทราบกันตรงนี้เลยว่าไม่ใช่ค่ะ หมู่เกาะสุรินทร์ตั้งอยู่ที่ จังหวัดพังงา ภาคใต้ของเรานี่เอง ที่นี่มีแนวปะการังริมฝั่งอยู่รอบหมู่เกาะ แถมยังมีน้ำทะเลที่ใสแจ๋ว เหมาะแก่การดำน้ำดูปะการังเป็นอย่างมาก   4. หินสามวาฬ ภูสิงห์ หลังจากที่พาไปเที่ยวทะเลกันมาถึง 3 แห่งแล้วนั้น เราจะพาไปเที่ยวคลายร้อนแนวภูเขากันบ้าง โดยที่ที่เราจะแนะนำพาไปเที่ยวกันนั้นคือที่ “หินสามวาฬ” อยู่ในอุทยานภูสิงห์ จ.บึงกาฬ ที่นี่จะมีลักษณะเป็นลานหินขนาดใหญ่ รูปลักษณ์คล้ายวาฬสมชื่อ โดยบริเวณนี้สามารถขับรถขึ้นไปเองได้ เหมาะกับการขึ้นไปกินลมชมวิวคลายร้อนมากๆ   ทะเลน้อย ทะเลน้อย ตั้งอยู่ที่ อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง...