ในหลวงรัชกาลที่ 10 ราชันเจ้าเวหา องค์ราชาผู้อ่อนโยน
เชื่อเหลือเกินว่า ภาพความทรงจำส่วนใหญ่ของพสกนิกรชาวไทยที่มีต่อ “สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามกุฎราชกุมาร” หรือปัจจุบันที่ทรงดำรงพระยศเป็นพระมหากษัตริย์พระองค์ที่ 10 ของราชวงศ์จักรีไทย “สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร” คือชายชาตรีชาติทหาร ที่สุขุม สง่างาม และดูน่าเกรงขาม ด้วยเพราะทรงรับราชการทหารมาโดยตลอด โดยที่โดดเด่นที่สุดก็คือพระปรีชาชาญในด้านการบิน ที่ทรงเป็นผู้ที่มีชั่วโมงการฝึกบินต่อเนื่องสูงมาก เป็นผู้รู้รอบทั้งในกรอบทฤษฎีและปฏิบัติ ทั้งยังทรงเคยชนะเลิศการแข่งขันการใช้อาวุธทางอากาศ รวมถึงทรงพระกรุณาเป็นครูการบินให้กับบุคคลากรการบินของไทยด้วย นั่นจึงทำให้พระองค์ทรงได้รับพระราชสมัญญานามว่า “กษัตริย์นักบินรบ” ซึ่งนับเป็นพระมหากษัตริย์นักบินพระองค์แรกแห่งราชวงศ์จักรี
แต่ถึงแม้ภาพความทรงจำของประชาชนส่วนใหญ่ที่มีต่อพระองค์จะคือราชันชาติทหาร ในความเป็นจริงแล้วพระองค์ก็ทรงเป็นองค์ราชาที่เปี่ยมไปด้วยพระราชจริยวัตรอันงดงาม มีพระราชอารมณ์ขัน และมีความอ่อนโยนหาใครเสมอเหมือน เฉกเช่นเดียวกับพระราชบิดาของพระองค์ ซึ่งวันนี้ เราจะพาไปพบกับเรื่องราวความประทับใจในอีกมุมหนึ่งของในหลวงรัชกาลที่ 10 ซึ่งเป็นมุมของความอ่อนโยน ที่เราอาจไม่เคยรู้ และไม่เคยเห็นมาก่อนกันครับ
ราชาผู้เคยถูกให้เป็นเวรลบกระดาน
ในช่วงเวลาที่เป็นเด็กนักเรียน เชื่อว่าเราคงเคยซน เคยดื้อจนถูกทำโทษกันมาบ้างไม่มากก็น้อย ไม่ว่าจะโดนตี โดนให้เป็นเวรทำความสะอาด หรือว่าบำเพ็ญประโยชน์เพื่อสาธารณะ ทั้งนี้ ในหลวงรัชกาลที่ 10 เองก็ทรงเคยผ่านช่วงเวลาของการถูกทำโทษมาเหมือนกับเด็กอย่างเราๆ เช่นกัน ซึ่งครั้งหนึ่งพระองค์ทรงเคยให้สัมภาษณ์ไว้ถึงเรื่องนีน้ เนื่องในโอกาสครบ 50 ปี โรงเรียนจิตรลดาซึ่งทรงเคยเป็นอดีตศิษย์เก่ารุ่นที่ 2 ไว้ว่า
“…เคยทำเวรลบกระดาน เวรแจกน้ำส้ม เป็นเรื่องที่น่าภูมิใจ เป็นเรื่องที่ดี ก็รู้สึกว่าครูบาอาจารย์ให้ความเป็นห่วง ให้ความหวังดี ให้ความรัก แล้วก็ตั้งใจ มีศรัทธาที่จะสอน ครูที่ดีก็จะต้องดุ ตอนเด็กๆ ก็อาจจะไม่ชอบ โดนยังงู้นยังงี้อะไรต่างๆ แต่ที่อ่านออกได้เพราะครูทัศนีย์ ครูมีความบริสุทธิ์ใจ มีความเสียสละ ไม่คิดถึงตัวเอง เป็นห่วง เป็นทุกข์เป็นร้อนถ้าเกิดนักเรียนไม่ดี หรือมีปัญหาต่างๆ ทางบ้าน ก็ติดตามตลอด มีเยื่อใยอยู่ตลอด อันนี้ที่เราประทับใจในโรงเรียนจิตรลดาและครูบาอาจารย์
เป็นโรงเรียนที่มีความรักความอบอุ่น…”
จากบทสัมภาษณ์ข้างต้น ทำให้เราสัมผัสได้อย่างชัดเจน ถึงความอ่อนโยน ความเป็นกันเองที่แฝงไปด้วยพระราชอารมณ์ขันของในหลวงรัชกาลที่ 10 ที่มีต่ออดีตคุณครูของพระองค์ นอกจากนั้นก็ยังสะท้อนให้เห็นถึงทัศนคติในเรื่องของความมีใจเป็นกลาง มีความยุติธรรมที่เข้าใจถึงหน้าที่ของคุณครูที่ต้องทำโทษลูกศิษย์ เพื่อให้ลูกศิษย์ไม่เดินทางผิด และเติบโตไปในทิศทางที่ดีที่ถูกต้อง
ราชาผู้เคย “ออกใบสั่ง” ให้นักดนตรี
มีใครบ้างไม่เคยเล่นตำรวจจับผู้ร้าย ไม่เคยแปลงกายเป็นโปลิสจับขโมย เรียกได้ว่าสำหรับเด็กผู้ชายแล้ว ความฝันในการเป็นตำรวจถือเป็นความฝันอันดับต้นๆ เลยก็ว่าได้ เช่นเดียวกันกับในหลวงรัชกาลที่ 10 เมื่อทรงพระเยาว์ ที่พระองค์ก็เคยทรงเล่นแบบนี้กับคนที่ท่านรู้จักเช่นกัน แต่เป็นในบทบาทของการออกใบสั่งให้กับผู้ที่จอดรถผิดที่ผิดทาง โดยเรื่องราวนี้ถือเป็นความประทับใจ ของ ผศ.ดร.ภาธร ศรีกรานนท์ นักประพันธ์ดนตรีชื่อดัง บุตรชายของเรืออากาศตรี ศ. (พิเศษ) ดร.แมนรัตน์ ศรีกรานนท์ สมาชิกวง อส.วันศุกร์ ซึ่งได้เล่าว่า หนึ่งในสมบัติล้ำล่าของคุณพ่อ (ดร.แมนรัตน์) คือลายพระหัตถ์ของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เมื่อครั้งยังทรงศึกษาอยู่ชั้น ป.2 ที่โรงเรียนจิตรลดา พระชนมพรรษา 8 พรรษา ที่ทรงเล่นเป็น “โปลิส”เขียนใบสั่งแนบไว้หน้ารถ ดร.แมนรัตน์ ว่า
“ปรากฎว่ารถของท่าน จอดเกินหลักเขต
ขอให้ไปพบที่กองตำรวจทางหลวง”
“ชาย” ผู้รัก “แม่” สุดหัวใจ
หนึ่งในความอ่อนโยนที่เราสามารถสัมผัสได้จากในหลวงรัชกาลที่ 10 อย่างชัดเจนก็คือความรักที่พระองค์ทรงมีต่อ “สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ” ซึ่งแน่นอนว่าเราต่างคุ้นตากับภาพความรักของทั้ง 2 พระองค์จากสื่อหนังสือพิมพ์หรือจอทีวีกันมาโดยตลอด แต่เชื่อว่าหลายๆ คนอาจจะยังไม่ทราบว่าในสมัยที่ในหลวงรัชกาลที่ 10 ทรงกำลังศึกษาวิชาทหารอยู่ที่ ณ โรงเรียนนายร้อยดันทรูน เครือรัฐออสเตรเลีย พระองค์เคยทรงพระราชนิพนธ์กลอนถวายพระพรชัยมงคลแด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2515 ด้วย ซึ่งเนื้อหาในกลอนพระราชนิพนธ์นั้น ก็สะท้อนให้ถึงหลากหลายแง่มุมในองค์ราชารัชกาลที่ 10 ของไทย อาทิ บทที่มีเนื้อความว่า
“แม่รักชาย ห่วงชาย ชายก็รู้ ชายจะสู้ สุดชีวา อย่าสงสัย
จะทำตัว ให้สม แม่วางใจ จะรักไทย กู้ศักดิ์ศรี จักรีวงศ์
จะรักหญิง ที่เขา เข้าใจแม่ จะแน่วแน่ พุทธศาสน์ ถือพระสงฆ์
การสวดมนต์ ไหว้พระ จะดำรง จะมั่นคง รักชาวไทย ไม่เสื่อมคลาย”
จากบทพระราชนิพนธ์ข้างต้น แสดงให้เราเห็นถึงความห่วงใยของสมเด็จพระราชินีผู้เป็นแม่ ที่มีความกังวลในหลายๆ เรื่องที่ต้องห่างลูกชายที่รัก เนื่องด้วยไปเรียนอยู่ในต่างบ้านต่างเมือง ซึ่งในหลวงรัชกาลที่ 10 จึงถือโอกาสบอกความในใจผ่านตัวอักษร โดยถ้าแปลเป็นภาษาแบบบ้านๆ ก็ประมาณว่า ขอให้วางใจ ชายจะไม่ทำให้แม่ผิดหวัง จะรักหญิงไทย จะรักคนไทย จะเป็นคนไทย จะดำรงมั่นในความเป็นพุทธ และไม่เปลี่ยนไปเป็นอื่น ซึ่งนับได้ว่า เป็นการใช้ภาษาที่มีความน่ารัก มีความเข้าใจในความรู้สึกของผู้เป็นแม่ ซึ่งนอกจากจะสะท้อนถึงความรักความสนิทสนมที่พระองค์มีต่อสมเด็จพระราชินีแล้ว ก็ยังแสดงออกถึงความรักชาติบ้านเมือง และความรับชอบผิดในหน้าที่ของพระองค์ด้วย ที่การมาอยู่ ณ ต่างแดนนี้ ก็เพื่อนำความรู้กลับไปดูแลประชาชนและประเทศชาติบ้านเมือง
ราชายอดกตัญญู
“ความกตัญญู” นับเป็นหนึ่งในคุณงามความดีที่ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร แสดงออกจนเป็นที่ประจักษ์แจ้ง โดยมิใช่แต่เพียงแค่พสกนิกรชาวไทยทั้งนั้น หากแต่ยังเป็นประชาชนทั่วโลกอีกด้วย ซึ่งหนึ่งในหลักฐานที่เป็นข้อพิสูจน์นั้นก็คือ “กิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ ปั่นเพื่อแม่ Bike for Mom และ ปั่นเพื่อพ่อ Bike for Dad” ที่ทรงเชิญชวนประชาชนทั่วประเทศมาร่วมปั่นจักรยานอย่างพร้อมเพรียงกัน ซึ่งในกิจกรรม Bike for Mom นั้น ได้มีประชาชนเข้าร่วมมากถึง 136,411 คน จนสามารถสร้างเป็นสถิติโลก กินเนสส์บุก เวิลด์ เรคคอร์ด ได้สำเร็จ และสำหรับกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ ปั่นเพื่อพ่อ Bike for Dad นั้น มีผู้เข้าร่วมมากถึง 568,427 คน ซึ่งภายหลังเสร็จสิ้นกิจกรรม ในหลวงรัชกาลที่ 10 ก็ทรงพระราชทานภาพฝีพระหัตถ์และทรงรับส่งกับผู้เข้าร่วมกิจกรรม ว่า
“ขอขอบใจท่านทั้งหลาย ด้วยความปลาบปลื้มและซาบซึ้งยิ่งนัก การที่ทุกทานได้สำแดง ความสามัคคีและน้ำใจ ตลอดจนความจงรักภักดีต่อองค์พระประมุข
และชาติบ้านเมือง นั้น เป็นนิมิตหมายที่ประเสริฐ ประเทศชาติอันเป็นที่รักของเราทุกคนจะเจริญก้าวหน้าเป็นบ้านที่ร่มเย็นและมั่นคง ก็ด้วยความรักและสามัคคีของ
คนในชาติ เพื่อประโยชน์สุขของส่วนรวม งานนี้ได้ประจักษ์แล้วว่า
คนไทย “ทำได้” และปลื้มที่สุด ที่ได้เห็นทุกคน “ปั่นเพื่อพ่อ” จากหัวใจ”
ทั้งจากการที่พระองค์ทรงเป็นผู้นำปั่นจักรยานเฉลิมพระเกียรติด้วยพระองค์เอง และจากพระราชดำรัสที่มีต่อผู้ร่วมกิจกรรม ล้วนสะท้อนให้เห็นถึงความอ่อนโยน ความกตัญญูต่อพระราชบิดา พระราชมารดา และความกตัญญูต่อประเทศชาติบ้านเมืองไปด้วยพร้อมๆ กัน ภายใต้การเป็นศูนย์รวมความสามัคคีและความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของคนในชาติ
ราชาผู้จะดำเนินตามรอยมหาราชัน
ทั้งหมดที่กล่าวมา เป็นเพียงเรื่องราวความประทับใจบางส่วน ที่สะท้อนให้เห็นถึงความอ่อนโยนของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ซึ่งความอ่อนโยน หรือ มัททวะ นี้ เป็นหนึ่งในธรรมแห่งทศพิธราชธรรม ธรรมของพระราชาผู้นำที่จะพาให้พสกนิกรและแผ่นดินไทยมุ่งหน้าสู่ความเจริญรุ่งเรือง และความสุขอันร่มเย็น ซึ่งยิ่งด้วยพระองค์ทรงอยู่เบื้องหลังและคอยติดตามพระราชบิดาในการทรงงานมาตั้งแต่แรกเริ่มด้วยแล้ว นั่นจึงทำให้เราพสกนิกรชาวไทยวางใจได้ว่า จะทรงเป็นศูนย์รวมจิตใจ และนำพาประเทศไทยก้าวไปสู่ยุคสมัยที่ร่มเย็น เฉกเช่นเดียวกับที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ได้ทรงทำไว้มาโดยตลอดรัชสมัย แต่ทั้งนี้ เราทุกคนเองก็ต้องไม่ลืมด้วยว่า เราเองก็คือหนึ่งในกลไกสำคัญที่จะนำพาประเทศไปถึงเป้าหมายนั้นด้วย ด้วยการตั้งมั่นอยู่ในความดี คิดดี ประพฤติดี เหมือนกับในหลวงรัชกาลที่ 9 ได้เคยมีพระราชดำรัสไว้เมื่อครั้งขึ้นครองราชย์ว่า “เราจะปกครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม” และเหมือนกับที่ในหลวงรัชกาลที่ 10 ทรงเคยให้คำมั่นไว้ ในพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณในการถือน้ำพิพัฒน์สัตยา เมื่อครั้งยังทรงเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ความว่า
“ข้าพระพุทธเจ้าขอพระราชทานกระทำสัตย์ปฏิญาณสาบานต่อประเทศชาติและประชาชนชาวไทยเฉพาะพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เฉพาะพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากรท่ามกลางสันนิบาตนี้ว่าข้าพเจ้าผู้เป็น สยามมกุฎราชกุมาร จะรักษาเกียรติยศและอริยศักดิ์ ซึ่งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯพระราชทานไว้ด้วยชีวิต จะภักดีต่อชาติบ้านเมือง จะซื่อสัตย์ต่อประชาชน จะปฏิบัติภาระหน้าที่ทุกอย่าง โดยเต็มกำลังสติปัญญาความสามารถ และโดยความเสียสละ เพื่อความเจริญสงบสุขและความมั่นคงไพบูลย์ของประเทศไทย จนตราบเท่าชีวิตร่างกายจะหาไม่”
หากคุณมีเรื่องราวไลฟ์สไตล์ที่น่าสนใจ ที่ต้องการประชาสัมพันธ์ในเวบไซต์ Alive Around ของเรา ไม่ว่าจะเป็นการอัพเดทเทรนด์แฟชั่น ความงาม ร้านอาหาร คาเฟ่สุดชิค แหล่งท่องเที่ยว หรือสถานที่แฮงค์เอ้าท์สุดคูล เทรนด์การตกแต่งบ้าน งานศิลปะ การออกแบบสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ หรือแม้แต่ข่าวสาร และเกร็ดความรู้ในวงการอสังหาริมทรัพย์ งานอีเว้นท์ เทคโนโลยี แก็ดเจ็ตใหม่ล่าสุด ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ สามารถติดต่อกับทีม Admin ของเราได้ที่ www.alivearound.com โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น