อุตสาหกรรมความงามกำลังเปลี่
บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม กำลังเป็นหัวใจของความงามยุคใหม่ หลายแบรนด์หันมาใช้วัสดุที่ย่อยสลายได้ แพ็กเกจแบบรีฟิลเพื่อลดขยะพลาสติก นอกจากนี้ สูตรผลิตภัณฑ์แบบ Waterless หรือปราศจากน้ำก็กำลังเป็นที่นิยมด้วยแนวคิดการลดการใช้น้ำและลดของเสียจากกระบวนการผลิต ขณะเดียวกัน Clean Beauty หรือความงามที่โปร่งใสและปลอดภัย กำลังกลายเป็นมาตรฐานใหม่ของวงการความงาม ผลิตภัณฑ์ที่ปราศจากสารเคมีสังเคราะห์ เน้นส่วนผสมจากธรรมชาติที่ผ่านการคัดสรรอย่างมีจริยธรรม กำลังเป็นที่ต้องการมากขึ้น เทคโนโลยีชีวภาพยังมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาส่วนผสมใหม่ ๆ ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและให้ประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยม
ในระดับอุตสาหกรรม แบรนด์ต่าง ๆ กำลังก้าวสู่ Carbon Neutrality หรือความเป็นกลางทางคาร์บอน โดยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ใช้พลังงานหมุนเวียน และเพิ่มประสิทธิภาพห่วงโซ่อุปทานเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ การนำเทคโนโลยีเข้ามาสนับสนุนการวางแผนทั้งกระบวนการผลิตจะช่วยให้แบรนด์สามารถติดตามความยั่งยืนของตนเองได้อย่างแม่นยำ ตั้งแต่การจัดหาวัตถุดิบไปจนถึงกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรต่อโลก
หนึ่งในผู้นำด้านผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพผิวและความงามของโลกที่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืนมาโดยตลอด คือ ไบเออร์สด๊อรฟ บริษัทสัญชาติเยอรมันผู้อยู่เบื้องหลังแบรนด์ดังที่คนไทยคุ้นเคยอย่าง นีเวีย และ ยูเซอริน ด้วยประสบการณ์กว่า 140 ปี ไบเออร์สด๊อรฟ ได้นำแนวคิดความยั่งยืนเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์หลัก ผ่านแผน Win With Care โดยตั้งเป้าลดการใช้พลาสติกจากแหล่งปิโตรเลียมลง 50% พร้อมปรับบรรจุภัณฑ์ทั้งหมดให้สามารถรีฟิล รีไซเคิล หรือใช้ซ้ำได้ภายในปี 2025 โรงงานผลิตทุกแห่งของ ไบเออร์สด๊อรฟ ใช้ พลังงานหมุนเวียน 100% ตั้งแต่ปี 2019 และมีแผนบรรลุ ความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2030 อีกทั้งยังตัดสินใจเลิกใช้ไมโครพลาสติกในผลิตภัณฑ์ นีเวีย และยูเซอรินทั้งหมด และพัฒนาโซลูชันกันแดดที่เป็นมิตรกับแนวปะการัง ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นต่อสิ่งแวดล้อมในทุกมิติ
ความงามในอนาคตไม่ได้เป็นเพียงเรื่องของผลิตภัณฑ์ที่ดีขึ้น แต่คือการสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อโลก แบรนด์ที่ก้าวไปไกลกว่าการใช้แนวคิดความยั่งยืนเป็นเพียงกลยุทธ์ทางการตลาด แต่ยกระดับเป็นปรัชญาหลักของธุรกิจ จะเป็นแบรนด์ที่ครองใจผู้บริโภคยุคใหม่ที่ให้ความสำคัญกับทั้งคุณภาพและจริยธรรม