วิธีรับมือฝุ่นพิษ PM 2.5
แม้ว่าการป้องกันฝุ่นพิษ PM 2.5 โดยวิธีการต่างๆ เช่น ใส่หน้ากากกันฝุ่นชนิดพิเศษ ใช้เครื่องฟอกอากาศแพงๆ จะเป็นวิธีแก้ปัญหาปลายทาง แต่หากเราไม่ป้องกันตั้งแต่วันนี้ และรู้วิธีรับมือเจ้าฝุ่นอันตรายแล้วล่ะก็ อาจจะทำลายสุขภาพของเราจนกระทั่งกลายเป็นโรคต่างๆ ส่งผลทั้งสุขภาพ เสียเงิน เสียเวลา ดังนั้นการปฎิบัติตัวโดยการป้องกันสิ่งอันตรายต่อสุขภาพจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ควรใส่ใจเป็นอย่างยิ่ง
การปฎิบัติตัวเพื่อป้องกันฝุ่นพิษ PM 2.5
- ลดการใช้ยานพาหนะส่วนตัว และใช้ระบบขนส่งสาธารณะแทน
- หลีกเลี่ยงการเผาไหม้ในที่โล่งแจ้ง เช่น การเผาพื้นที่เพื่อเตรียมการทำเกษตรกรรม การเผาขยะ หรือวัสดุเหลือใช้ เป็นต้น
- งดออกกำลังกายที่โล่งแจ้ง ให้ออกกำลังกายในที่ร่มแทน
- รับประทานอาหารที่มีส่วนช่วยในป้องกันอันตรายที่เกิดจากฝุ่น PM 2.5 เช่น วิตามินซี ช่วยเพิ่มระบบภูมิคุ้มกันร่างกายลดปัญหาจากภูมิแพ้ต่อระบบต่างๆ โดยเฉพาะระบบทางเดินหายใจ หรือกรดไขมันโอเมก้า 3 ซึ่งเป็นสารต้านการอักเสบ ช่วยป้องกันความเสื่อมของร่างกายจากการได้รับฝุ่นละออง PM 2.5
- ใส่หน้ากากอนามัยทุกครั้งที่จำเป็นต้องออกข้างนอกบ้าน หรือที่โล่งแจ้ง แนะนำให้ใส่หน้ากากอนามัยชนิดที่เรียกว่า “เอ็นเก้าห้า (N95)” โดยเฉพาะผู้ป่วยที่เป็นโรคระบบทางเดินหายใจ หรือโรคหัวใจเรื้อรัง เพราะสามารถป้องกันฝุ่น PM 2.5 ได้ดีที่สุด
หน้ากากอนามัย
ประเภทของหน้ากากอนามัยและการเลือกใช้ให้เหมาะสม
1. หน้ากากอนามัยชนิด N95
เป็นหน้ากากอนามัยที่ได้รับความนิยมมากที่สุด มีมาตรฐาน และได้รับการยอมรับว่าสามารถป้องกันเชื้อโรคได้ดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นฝุ่นละออง หรือเชื้อโรคที่มีขนาดเล็กถึง 0.3 ไมครอน ฝุ่น PM 2.5 ควันพิษไอเสียจากเครื่องยนต์ทุกชนิด และไอระเหยของสารเคมีต่างๆ
2. หน้ากากอนามัยแบบเยื่อกระดาษ 3 ชั้น
หรือที่เรียกกันว่า “หน้ากากอนามัยทางการแพทย์” หาซื้อได้ง่าย ราคาไม่แพง เน้นในด้านการป้องกันการแพร่กระจายเชื้อโรคจากการไอ หรือจาม จากเชื้อแบคทีเรีย หรือเชื้อรา แต่สำหรับเป็นเชื้อฝุ่นละอองที่มีอนุภาคเล็กระดับไมครอน ไม่สามารถป้องกันได้ จึงไม่แนะนำสำหรับการใช้เพื่อป้องกันฝุ่น PM 2.5
3. หน้ากากอนามัยแบบผ้า
หน้ากากอนามัยชนิดนี้ทำมาจากผ้าฝ้าย มีระดับความป้องกันไม่แตกต่างจากหน้ากากอนามัยแบบเยื่อกระดาษ เน้นการป้องกันการกระจายของน้ำมูก หรือน้ำลาย จากการไอ หรือจาม สามารถป้องกันฝุ่นละอองที่มีขนาดใหญ่กว่า 3 ไมครอนขึ้นไป จึงไม่แนะนำสำหรับการใช้เพื่อป้องกันฝุ่น PM 2.5 แต่ข้อดีคือ ประหยัดกว่าการใช้หน้ากากอนามัยแบบอื่น เพราะสามารถนำไปซักกับน้ำยาฆ่าเชื้อโรคแล้วนำกลับมาใช้ใหม่ได้ตลอด
เครื่องฟอกอากาศ (Air Purifier)
1.เครื่องฟอกอากาศคืออะไร
เครื่องฟอกอากาศเป็น เครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดหนึ่งที่ใช้หลักการเดียวกับ พัดลมทั่วไป (Fan) ที่อาศัยชุดพัดลมดูดอากาศ ที่ประกอบไปด้วยใบพัด และมอเตอร์ ในการดูดอากาศเข้าไปภายในตัวเครื่อง และปล่อยออกมาด้านนอก เพียงแต่ว่า เครื่องฟอกอากาศ นั้นมีการนำเอาระบบการกรองอากาศ (Air Purification System) เสริมเข้ามา ซึ่งเครื่องฟอกอากาศในแต่ละรุ่น แต่ละยี่ห้อนั้น ก็มีเทคโนโลยีการกรองหรือฟอกอากาศ ที่แตกต่างกันออกไป แต่โดยหลักๆแล้วจะต้องมีสิ่งที่เรียกว่า แผ่นกรองอากาศ ซึ่งก็จะมีหลายชั้น เพราะแผ่นกรองอากาศในแต่ละชั้นนั้นก็จะมีหน้าที่ ที่จะต้องคอยดูดซับสิ่งต่างๆ ที่ลอยอยู่ในอากาศ และถูกดูดเข้ามาภายในเครื่อง ที่แตกต่างกันออกไป อาทิ ละอองเกสรดอกไม้ ฝุ่นละอองขนาดใหญ่ (PM 10) ฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือ ฝุ่นจิ๋ว (PM 2.5) กลิ่นไม่พึงประสงค์ สารเคมี เชื้อโรคต่างๆ อย่าง เชื้อรา เชื้อแบคทีเรีย
2.เลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศดูอะไรบ้าง
2.1 Air Flow คือตัววัดความเร็วลม เป็นค่าที่แสดงถึงปริมาณอากาศที่ถูกกรอง ยิ่งมีค่าแอร์โฟร์ มาก ก็หมายความว่า จะสามารถกรองอากาศและปล่อยอากาศบริสุทธิ์กลับเข้าสู่ห้องได้เร็วมากขึ้น เท่านั้น
2.2 ขนาดของห้อง เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่จะต้องนํามาพิจารณา ในการเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศถ้าเราซื้อ เครื่องฟอกอากาศขนาดเล็ก แต่นําไปใช้ในห้องขนาด 40 ถึง 50 ตารางเมตร ก็จะทําให้อากาศสะอาดไม่ทั่วถึง เหมือนกับใช้ประโยชน์ของเครื่องฟอกอากาศได้ไม่เต็มที่ แต่ในทางกลับกันถ้าเป็นห้องนอนขนาด เล็ก ก็ไม่จําเป็นที่จะต้องเลือกเครื่องฟอกอากาศรุ่นใหญ่มาใช้ให้กินไฟโดยเปล่าประโยชน์
2.3 ค่า CADR (Clean Air Delivery Rate) เป็นค่าที่แสดงว่าเครื่องฟอกอากาศตัวนั้นๆ สามารถฟอกสิ่งสกปรกออกจากอากาศได้มากน้อยแค่ไหนในเวลา 1 นาที ถ้าค่า cadr ยิ่งมาก ก็แสดงว่ามีความสามารถในการกรองสิ่งสกปรกได้สูงนั่นเอง
2.4 ระดับเสียง เครื่องฟอกอากาศรุ่นใหญ่หลายๆยี่ห้อมักจะมีเสียงดัง ระดับเสียงที่เหมาะสมควรอยู่ประมาณ ไม่เกิน 30 เดซิเบล
2.5 การประหยัดไฟ เครื่องฟอกอากาศเป็นเครื่องไฟฟ้าที่จะต้องเปิดใช้งานตลอดทั้งคืน ทุกวัน ตลอดปี ดังนั้นอาจจะต้องพิจารณาในเรื่องของการประหยัดไฟร่วมด้วย และที่สําคัญก็คือ เมื่อซื้อเครื่องกรองอากาศมาใช้งานแล้ว ก็ควรตรวจสอบในเรื่องของแผ่นกรองอากาศ ทําความสะอาดหรือเปลี่ยนตามกําหนด ที่ทางผู้ผลิตแจ้งไว้เพราะยิ่งแผ่นกรองอากาศตันมากเท่าไร จะทําให้เครื่องยิ่งต้องออกแรงในการนําอากาศเข้าสู่ตัวเครื่องมากขึ้น ก็จะเป็นสาเหตุที่ทําให้กินไฟมากขึ้นด้วย
2.6 ครอบคลุมฟังก์ชั่น แต่ละเครื่องฟอกอากาศมีฟังก์ชั่นน่าสนใจมากมาย แต่ขึ้นกับเราต้องการใช้งานฟังก์ชั่นอะไรบ้าง เช่น การตั้งเวลาเปิดปิด อัตโนมัติ, ระบบสั่งการด้วยรีโมทหรือแอปพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟน, สัญญาณเตือนแผ่นกรองอากาศ, ระบบวัดฝุ่นสั่งให้เครื่องทํางานเองโดยอัตโนมัติ, ระดับความชื้น เป็นต้น
2.7 แผ่นกรองอากาศ HEPA (ย่อมาจากคำว่า “High Efficiency Particulate Air” หรือ “High Efficiency Particulate Absorption“) เป็นแผ่นกรองอากาศประสิทธิภาพสูง ที่มีความสามารถในการกรองฝุ่นขนาดเล็กมากๆ (หรือฝุ่นละออง PM 2.5) ได้ โดยคุณสมบัติแผ่นกรองชนิดนี้คือ กรองฝุ่นขนาดเล็กมากถึง 2.5 ไมครอน (μm) ได้ รวมไปถึงกรองเชื้อรา แบคทีเรีย มลพิษต่างๆ ที่ลอยอยู่ในอากาศได้เป็นอย่างดี
2.8 ราคา แม้คุณสมบัติดีเลิศแค่ไหน ถ้าราคาสูงเกินเอื้อม แล้วซื้อเครื่องฟอกอากาศโดยไม่มีการไตร่ตรองก่อน จะทําให้เราเสียเงินเพิ่มขึ้นโดยไม่รู้ตัว เพราะยังต้องซื้อแผ่นกรองอากาศซึ่งโดยทั่วไปต้องให้เปลี่ยนทุก ๆ 6 – 12 เดือน ที่สําคัญแนะนําพิจารณาเรื่องกําลังไฟของเครื่องนั้นๆ ด้วยเพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายอื่นๆ
2.9 การรับรองประกัน เรื่องการประกันสินค้าเป็นสิ่งสําคัญไม่แพ้กันเพราะหากเครื่องฟอกอากาศเกิดเสียกะทันหัน ค่าความเสียหายของอะไหล่ต่างๆ อาจทําให้ค่าซ่อมสูงใกล้เคียงกับราคาเครื่องฟอกอากาศเครื่องใหม่ก็เป็นได้ ดังนั้นการประกันจึงเป็นเรื่องสําคัญมาก ซึ่งโดยส่วนใหญ่ประกันจะมีระยะเวลา 1 ปีขึ้นไป
เครื่องฟอกอากาศแนะนำปี 2020
Xiaomi Mi Air su Purifier Pro
เครื่องฟอกอากาศ Xiaomi Mi Air Purifier Pro ผลิตภัณฑ์สุดฮิตจากประเทศจีน ราคาประหยัดสุดคุ้ม ประสิทธิภาพ การทํางานของกรองอากาศดีไม่แพ้ยี่ห้ออื่น ๆ มีฟังก์ชั่นพิเศษอย่างKน้าจอ OLED (Organic Light Emitting Diodes) สว่างคมชัด สามารถแสดงค่าต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นค่าฝุ่น PM2.5 อุณKภูมิและความชื้นในห้อง โดยใช้ระบบเซนเซอร์ อัจฉริยะสําหรับวัดปริมาณค่าอย่างแม่นยํา สั่งด้วยสัมผัสปลายนิ้ว หรือ สั่งด้วยแอปพลิเคชั่นชื่อว่า “Mi Home” บน สมาร์ทโฟน ซึ่งช่วยสะดวกสบายในการใช้งานและฟังก์ชั่นอื่นๆได้ ภายในเครื่องมาพร้อมไส้กรอง 3 ชั้น (ชั้นนอก, ชั้นกลาง, ชั้นใน) ทําให้สามารถดักจับฝุ่น สารเคมีอันตราย แก๊สพิษ รวมถึงกลิ่นไม่พึงประสงค์ ไส้กรองสามารถใช้งานได้นานกว่า 4,000 ชั่วโมง เมื่อไส้กรองหมดสภาพได้รับเสียงแจ้ง เตือนซึ่งเปลี่ยนไส้กรองได้ ปรับโหมดการใช้งาน 3 รูปแบบ (Auto, Sleep และ Favorite) นอกจากนี้ระดับเสียงของ – เครื่องนี้เพียง 31 เดซิเบล ถือว่าระดับเสียงเบาไม่รบกวนเวลานอนของคุณเลยทีเดียว และมีโหมด Child Lock ป้องกัน เด็ก ๆ กดเล่นได้อีกด้วย
Philips รุ่น AC1215
SHARP รุ่น FP-FM40B ขนาด 30 ตรม. (ดักยุงได้)
เครื่องฟอกอากาศที่สามารถดักจับยุงได้ พื้นที่ใช้งานประมาณ 30 ตารางเมตร มาพร้อมกับระบบพลาสม่าคลัสเตอร์เข้มข้น ที่จะทําให้อากาศในห้องของคุณบริสุทธิ์ขึ้นยิ่งกว่าเดิม ช่วย สลายกลิ่นอับชื้น และยังช่วยฆ่าเชื้อโรคในห้องการมาด้วยฟังก์ชันการดักจับยุง ที่จะช่วยให้การนอน ของคุณหลับสนิทมากยิ่งขึ้น
Sharp รุ่น FP-FM40B มีคุณสมบัติเด่นในเรื่องประสิทธิภาพของการฟอกอากาศ พร้อมทั้งการจับยุงไปใน ตัว โดยในการฟอกอากาศ ก็สามารถฟอกอากาศได้ความละเอียดสูงสุดถึง 0.3 ไมครอน พร้อมทั้งยัง สามารถกําจัดเชื้อรา เชื้อแบคทีเรีย รวมถึงเชื้อไข้หวัดนกรวมถึงช่วยสลายฤทธิ์สารก่อภูมิแพ้จากไร ฝุ่น อันเป็นสาเหตุที่ทําให้เกิดภูมิแพ้และโรคไซนัสโรคระบบทางเดินหายใจต่างๆได้อีกด้วยระบบการ ทํางานแบบ lon Shower ที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทํางานของระบบพลาสม่าคลัสเตอร์ โดยการพ่น อนุภาคประจุไฟฟ้าทั้งบวกและลบในปริมาณที่สูง เป็นเวลาต่อเนื่องถึง 60 นาที่ช่วยทําให้ห้อง สะอาดปราศจากเชื้อโรคที่อยู่ในห้องได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ความสามารถในการกรองฝุ่นด้วยแผ่น กรองฝุ่น hepa ก็สามารถดักจับฝุ่นละอองที่มีขนาดเล็กได้สูงสุดถึง 0.3 ไมครอน 99.97 เปอร์เซ็นต์
ในส่วนของเครื่องดักยุง Sharp รุ่น FP-FM40B มีฟังก์ชันพิเศษในการดักจับยุง ด้วยการใช้ลําแสง UV ตัว เครื่องสีดํา เป็นตัวที่จะล่อยุงให้บินเข้ามา และเมื่อยุงเข้ามาใกล้กับช่องดักยุงของตัวเครื่องแล้ว กระแส ลมก็จะเป็นตัวดูดและดักจับยุงเอาไว้ซึ่งฟังก์ชันนี้มีผู้ที่ซื้อไปแล้วทดลองใช้งานรีวิวว่าทํางานได้ดีใน ระดับหนึ่งเลยทีเดียว สําหรับ Sleep mode ตัวเครื่องจะทํางานเบาลง ความเร็วของพัดลมจะถูกปรับอัตโนมัติ ตามความ บริสุทธิ์ของอากาศในขณะนั้น หากเซ็นเซอร์ของเครื่องฟอกอากาศตรวจจับพบว่ามีปริมาณฝนที่มาก ขึ้น ตัวเครื่องก็จะปรับระดับการฟอกอากาศเพิ่มขึ้นโดยอัตโนมัติ มีเวลานอนก็ตาม
ข้อดี
- ประสิทธิภาพในการฟอกอากาศดี ใช้แล้วภูมิแพ้ไซนัสบรรเทาลง
- มีตัวดักจับยุง ทําให้สะดวก และไม่ต้องไปซื้อเครื่องดักยุงเพิ่ม
- ปล่อยประจุบวกและลบฆ่าเชื้อโรค
- มีการรับประกัน 1 ปี จาก sharp ประเทศไทย
ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบ
http://bit.ly/2TkrT9g
http://bit.ly/39XgnGK
http://bit.ly/2NkncIQ
http://bit.ly/2Nmydt5
http://bit.ly/36Mlqry
http://bit.ly/30ir6Hf