ปลาหมอคางดำ ปลาที่กำลังแพร่กระจายอย่างรวดเร็วในขณะนี้ นับว่าเป็นหนึ่งสถานการณ์เร่งด่วนของส่งผลต่อระบบนิเวศและการประกอบอาชีพของชาวประมงอย่างหนัก
โดยล่าสุดได้ติดเทรนด์ “การกิน” ของของประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ไม่ว่าจะเป็นจากทางชาวบ้าน รัฐบาล หรือคนดังทั้งหลายได้รังสรรค์เมนูจากเจ้าปลาหมอคางดำ นั้นขึ้นมาอย่างหลายหลายเมนู เพื่อให้ได้ลองนำไปบริโภค และช่วยลดการแพร่กระจายของเจ้าปลาดชนิดนี้
วันนี้ AliveAround จึงขอพา Around กับ 20 เมนูปลาหมอคางดำ อัปเดต 2567 ที่ต้องลอง และต้องจับมาขึ้นโต๊ะ มีอะไรบ้างไปดูกันได้เลย
รู้จักปลาหมอคางดำ
ปลาหมอคางดำ หรือ Blackchin tilapia เป็นปลาที่มีลักษณะคล้ายกับปลาหมอเทศ มีต้นกำเนิดในทวีปแอฟริกา แต่ต่อมาได้มีการนำเข้ามาในหลายประเทศทั่วโลก ไม่ว่าจะอเมริกา ยุโรป หรือประเทศไทยเองก็มีการนำเข้ามาในปี 2553
โดยปลาหมอคางดำเป็นปลาน้ำจืดชนิดหนึ่งที่พบได้ในแม่น้ำและทะเลสาบในแอฟริกาตะวันตก โดยทั่วไปมีลักษณะสีเทาหรือดำเข้ม มีจุดเด่นที่คางและคอซึ่งมีสีดำสนิท ปลาชนิดนี้มักจะถูกเลี้ยงในบ่อเพื่อใช้เป็นอาหารเพราะมีเนื้อที่อร่อยและเจริญเติบโตได้อย่างรวดเร็ว
และเป็นปลาที่แข็งแกร่งเป็นอย่างมาก เพราะสามารถปรับตัวกับอาหารได้ภายใน 1 ชั่วโมง อีกทั้งยังขยายพันธุ์ได้อย่างรวดเร็ว โดยขยายพันธุ์ได้ทุก ๆ 22 วัน จะออกไข่ได้มากถึงครั้งละ 300 ฟอง และมีโอกาสรอดถึง 99% นี่จึงเป็นสาเหตุที่ปลาชนิดนี้มีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วนั้นเอง
เปิด 20 เมนูปลาหมอคางดำ อัปเดต 2567
มีหลายเมนูที่สามารถทำจากปลาหมอคางดำได้ และรสชาติถูกปากคนไทย ดังนี้
- ปลาหมอคางดำทอดกรอบ: นำปลามาล้างทำความสะอาด ตัดเป็นชิ้นๆ แล้วคลุกกับเกลือและพริกไทย นำไปทอดจนกรอบ เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มซีฟู้ด
- แกงส้มปลาหมอคางดำ: ใช้ปลาหมอคางดำเป็นวัตถุดิบหลัก ผสมกับพริกแกงส้ม ผักต่างๆ เช่น หน่อไม้ ดอกแค และมะเขือเทศ เพิ่มรสด้วยน้ำมะขามเปียกและน้ำปลา
- ปลาหมอคางดำนึ่งมะนาว: นำปลามาล้างและล้างทำความสะอาด ใส่ขิงซอย พริกไทย และมะนาว แล้วนำไปนึ่งจนสุก เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มซีฟู้ด
- ปลาหมอคางดำผัดฉ่า: นำปลามาผัดกับเครื่องแกงฉ่า ซึ่งประกอบด้วยพริก กระเทียม ขิง และใบมะกรูด ผัดจนเข้ากันดี
- ปลาหมอคางดำย่างเกลือ: นำปลามาคลุกกับเกลือและสมุนไพรต่างๆ เช่น ตะไคร้ ใบมะกรูด แล้วนำไปย่างจนสุก เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มแจ่ว
- ปลาหมอคางดำลุยสวน : นำปลาหมอคางดำมาทอดให้กรอบ ทำน้ำซอส นำน้ำพริกเผา น้ำปลา น้ำตาลทราย และน้ำมะนาว มาคลุกให้เข้ากัน จากนั้นใส่พริกขี้หนูซอย ขิงแก่หั่นเต๋า มะนาวหั่นเต๋า หอมแดงซอย ตะไคร้ซอย ใบมะกรูดซอย ผักชีฝรั่งซอย ใบสะระแหน่ ถั่วลิสง และมะม่วงลงไปคลุกเคล้าให้เข้ากันอีกครั้ง นำผักกาดหอมรองจาน นำปลาช่อนที่ทอดแล้วมาวางลง ตามด้วยมะม่วงซอย เสร็จแล้วนำส่วนผสมที่คลุกเคล้าให้เข้ากันดีแล้ว นำไปราดลงบนตัวปลาช่อนที่ทอดเตรียมไว้
- น้ำยาขนมจีนปลาหมอคางดำ: น้ำยาขนมจีนเป็นองค์ประกอบของชุดขนมจีน ลักษณะคล้ายกับแกงคั่ว มีส่วนผสมของสมุนไพรที่มีรสเผ็ดร้อน เช่นพริกแห้ง ขมิ้น ตะไคร้ ข่า พริกไทย และน้ำกะทิ รสชาติเผ็ดร้อน
- ปลาร้าจากปลาหมอคางดำ : ปลาร้า จาหมอคางดำ ทำได้ง่ายเตรียมครกกับสาก นำเกลือสินเธาว์ ที่มีลักษณะเป็นดอกเกลือ มาตำให้พอแหลก ไม่ต้องตำจนละเอียด นำข้าวเปลือกมาคั่วในกระทะ เสร็จแล้วปั่นให้ละเอียด นำเนื้อปลามาคลุกเคล้ากับเกลือและข้าวคั่ว จนเข้าเนื้อ จากนั้น หมักใส่ไว้ในไห หรือ ขวดโหลพลาสติก ปิดปากให้แน่น หมักทิ้งไว้ 2 อาทิตย์
- ปลาหมอคางดำแดดเดียว : เมนูถนอมอาหารยอดฮิตของคนไทยที่มีมาอย่างยาวนาน เป็นการนำปลาสดทั้งตัวหรือที่ได้ตัดแต่งแล้วมาล้างให้สะอาด และปรุงรสด้วยเครื่องเทศหรือสมุนไพรด้วยการหมักให้เข้ากัน จากนั้นนำไปทำให้แห้งโดยใช้ความร้อนจากแสงอาทิตย์
- ต้มยำปลาหมอคางดำ : ต้มน้ำให้เดือด ใส่เครื่องต้มยำลงไป เติมเกลือ รสดีลงไป ผงชูรส รอให้น้ำเดือดอีกทีใส่ปลาลงไป(รอสุกประมาณ10-15นาที)ไม่ต้องต้มนานเนื้อจะเละ ตักฟองออก ใส่เห็ด ใส่มะเขือ รอจนสุก
- ปลาหมอคางดำบดชุบเกล็ดขนมปัง : ลอกเนื้อกับก้างออกนำไปบด ชุบกับแป้ง ไข่ และเกร็ดขนมปัง นำไปทอดใช้ไฟให้เหมาะสม พร้อมรับประทาน
- ข้าวเกรียบปลาหมอคางดำ : นำเนื้อปลามาสับหรือปั่นให้ละเอียด ส่เนื้อปลาสับ แป้งมันสำปะหลัง แป้งสาลี กระเทียมสับ พริกไทยป่น เกลือ น้ำตาลทราย ผงปรุงรส และน้ำเปล่า 1 ถ้วยตวง ลงในชามใหญ่ นวดส่วนผสมทั้งหมดจนเข้ากันดี แป้งจะเนียนและไม่ติดมือ เตรียมน้ำมันสำหรับทอด ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันให้ท่วม แบ่งแป้งเป็นก้อนกลมๆ หรือปั้นเป็นแท่งยาวๆ ตามชอบ ใส่แป้งที่แบ่งไว้ลงในน้ำมันร้อน ทอดจนเหลืองกรอบ ตักข้าวเกรียบปลาที่ทอดเสร็จขึ้นวางบนตะแกรงพักให้สะเด็ดน้ำมัน
- คั่วกลิ้งปลาหมอคางดำ : “คั่วกลิ้ง” อาหารพื้นบ้านชาวปักษ์ใต้ มีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ เป็นที่ชื่นชอบของคนที่ทานอาหารรสจัด มีกลิ่นหอมเครื่องเทศ มีความเผ็ดเร่าร้อน รวมถึงความอร่อยจากเนื้อสัตว์ คั่วกลิ้งไม่มีสูตรตายตัวในการปรุงของแต่ละพื้นที่ บ้างก็ใส่ข่าอ่อนซอยเสริม บ้างก็ใส่ตะไคร้หั่นซอย เติมเนื้อปลาลงไป ดยหั่นเป็นชิ้นแล้วนำไปคั่วจนเนื้อสัตว์เปื่อยนุ่ม ใส่เครื่องแกงลงไปคั่วจนแห้ง เมื่อได้ที่เนื้อสัตว์จะกลิ้งเมื่ออยู่ด้านบนของกระทะ จึงเป็นที่มาของคำว่า “คั่วกลิ้ง”
- ปลาหมอคางดำหวาน : แล่เนื้อปลาออกเป็นชิ้น ส่วนก้างที่นี่จะเก็บไว้สำหรับทำก้างหวานด้วย ซอสที่นำมาคลุกกับปลามีแค่ซอสปรุงรส น้ำตาลทรายและเกลือสมุทร เน้นรสชาติให้ออกหวานนำเค็ม ผสมซอสให้เข้ากันดีแล้วจึงใส่เนื้อปลาและก้างลงคลุกเคล้าให้ซอสเคลือบทั่ว โดยไม่แช่ปลาทิ้งไว้นานเพราะซอสจะซึมเข้าเนื้อปลาเยอะ ทำให้รสชาติเข้มเกินไป
- ปลาหมอคางดำทอดเกลือ : แล่ท้องปลาและทำความสะอาดให้เกลี้ยง เคล้าตัวปลาด้วยเกลือ แล้วทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที ตั้งกระทะโดยใช้ไฟปานกลาง ใส่น้ำมันสำหรับทอดปลาลงไป รอจนน้ำมันร้อนจัดแล้วใส่ปลาที่หมักกับเกลือไว้ลงไปทอด จนสุกเหลืองทั้งสองด้าน
- ฉู่ฉี่ปลาหมอคางดำ : เคี่ยวหัวกะทิให้แตกมันเล็กน้อย ใส่พริกแกงฉู่ฉี่ ผัดให้เข้ากัน เติมหางกะทิ ปรุงรส ด้วยน้ำปลา และน้ำตาลปี๊บ ใส่ปลาหทอคางดำที่เตรียมไว้ รอจนสุก ปิดไฟ จัดเสิร์ฟ โรยด้วยใบมะกรูด และพริกชี้ฟ้า
- ทอดมันเนื้อปลาหมอคางดำ : นำเนื้อปลา พริกแกง ใบมะกรูดซอย และถั่วฝักยาวซอย ผสมรวมกันในชามผสม ปรุงรส นวดคลุกเคล้าส่วนผสมให้เข้ากันจนหนืดและเด้ง และทอด แค่นี้ก็อร่อยแล้ว
- ขนมปั้นขลิบไส้ปลาหมอคางดำ : อาหารว่างของไทยที่มีมาแต่โบราณ ในปัจจุบันเริ่มหาทานได้ยากมาขึ้น วิธีการทำจะนำแป้งมากวนจนจับตัวเป็นก้อน และนวดจนนิ่ม นำมามาห่อไส้ โดยไส้ พับปิดตรงขอบจับแป้งเป็นขลิบลักษณะคล้ายเกรียวปิดที่ขอบแป้ง
- น้ำพริกปลาหมอคางดำ : เปิดเตาตั้งกระทะ ใส่น้ำมันรอจนร้อน นำปลาไปทอดให้เหลืองหอมทั้งสองด้าน แกะเอาแต่เนื้อ พักไว้ นำหอมแดง กระเทียม และพริก นำมาคั่วในกระทะให้หอม นำพริกกระเทียม หอมแดงที่เราคั่ว ลงไปโขลกให้พอแหลก ตามด้วยปลาทู โขลกพอเข้ากัน นำพริกกระเทียม หอมแดงที่เราคั่ว ลงไปโขลกให้พอแหลก ตามด้วยปลาทู โขลกพอเข้ากัน
- ไส้อั่วปลาหมอคางดำ : นำปลามาแล่เนื้อล้างทำความสะอาด ปั่นเนื้อให้หยาบ ใส่เครื่องปรุง พริกแกง และนำไปนวดให้เข้ากัน ยกตีกับพื้นที่เรานวดหลายๆครั้ง เสร็จแล้วบรรจุใส่ไส้ที่เราเตรียมไว้ผูกด้วยเชือกมัดอาหารเป็นท่อนๆประมาณ 5-6 นิ้ว นำไปนึ่งไฟให้ไส้อั่วคงรูปสวยก่อนนำไปย่างรับประทาน
ทุกเมนูสามารถปรับเปลี่ยนส่วนผสมตามความชอบได้เพื่อให้ได้รสชาติที่ตรงกับความต้องการของแต่ละคน
นอกจากนี้ “ปลาหมอคางดำ” แม้เป็นปลาต่างถิ่น แต่สามารถรับประทานได้เหมือนปลาทั่วไป เป็นปลาตระกูลเดียวกันกับปลานิล มีคุณค่าทางโภชนาการ โปรตีนและไขมันเทียบเท่ากับปลานิล โดยคุณค่าทางโภชนาการไม่น้อยหน้าปลาชนิดอื่น