ลัดเลาะ “เจริญกรุง” มนต์เสน่ห์แห่งวันวาน + วันใหม่
ไม่ว่าจะกี่ยุค กี่สมัย “เจริญกรุง” ย่านชุมชนการค้าเก่าแก่ของกรุงเทพฯ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ยังคงเสน่ห์เฉพาะตัว และยังสะท้อนวัฒนธรรม และวิถีชีวิตแบบดั้งเดิม ที่ผสานกับไลฟ์สไตล์สมัยใหม่ได้อย่างกลมกลืน
ใครจะรู้ว่า “ถนนเจริญกรุง” เป็นถนนแห่งประวัติศาสตร์ เพราะเป็นถนนรุ่นแรกที่ก่อสร้างตามแบบตะวันตก โดยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๔ โปรดเกล้าให้สร้างขึ้น มีความยาวจากถนนสนามไชย ถึงดาวคะนองถึง 8,575 เมตร เนื่องจากสมัยนั้นมีชาวต่างชาติเข้ามาอยู่ในกรุงเทพฯ มากขึ้น และพวกกงสุลได้เข้าชื่อกันขอให้สร้างถนนสายยาวสำหรับขี่ม้า หรือนั่งรถม้าตากอากาศ ชาวยุโรปเรียกถนนนี้ว่า “New Road” ต่อมารัชกาลที่ ๔ ทรงพระราชทานนามว่า “ถนนเจริญกรุง” ซึ่งมีความหมายถึงความเจริญรุ่งเรืองของบ้านเมือง ปัจจุบันผ่านพื้นที่เขตพระนคร เขตสัมพันธวงศ์ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย เขตบางรัก เขตสาทร และเขตบางคอแหลม แต่ความน่าสนใจของย่านนี้ ไม่ใช่เพียงแค่ความเก่าแก่ของย่าน ที่ประปรายไปด้วยสถาปัตยกรรมย้อนยุคสไตล์ “ชิโน-โปรตุกีส” (Chino-Portuguese Architecture) ที่ชวนหลงใหล แต่เป็นความเก๋าของย่านที่ทำให้ย่านนี้เป็นย่านที่ไม่เคยตกยุค
“เจริญกรุง” แหล่งรวมความอาร์ต + ดีไซน์
เมื่อเร็วๆ นี้ ย่านเจริญกรุงได้เปิดบ้านต้อนรับสมาชิกใหม่ TCDC (Thailand Creative & Design Center) ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ เพื่อเป็น “แหล่งบ่มเพาะธุรกิจสร้างสรรค์” ที่ย้ายมาจากสาขาห้าง Emporium มาเปิดทำการอีกครั้ง ณ อาคารไปรษณีย์กลาง บางรัก ถนนเจริญกรุง ซึ่งถือว่าเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของย่าน โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมแบบ Art Deco โทนสีน้ำตาลสไตล์คลาสสิค เพื่อให้กลมกลืนไปกับความเก่าแก่ของย่าน แต่ภายในออกแบบอย่างทันสมัยตอบรับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ เปิดบริการเป็น co-working space พื้นที่ 8,700 ตารางเมตร ประกอบไปด้วยพื้นที่จัดนิทรรศการ ห้องประชุม ห้องสมุดหนังสือเกี่ยวกับการออกแบบ ศูนย์ให้คำปรึกษาทางธุรกิจ ห้องเวิร์คช็อป สวนลอยฟ้า และคาเฟ่ เปิดให้บริการทุกวันอังคาร – อาทิตย์ (ปิดวันจันทร์) ระหว่างเวลา 10.30 – 21.00 น.
หากเดินลัดเลาะไปในซอยเจริญกรุง 32 ที่อยู่ด้านข้างของไปรษณีย์กลาง และซอย 30 คุณจะพบกับ Wall Art แหล่งร่วมงานกราฟฟิตี้ย่านกรุงเก่า ที่ศิลปินทั่วโลกได้มาสร้างสรรค์ชิ้นงานตามซอกซอยในย่านเก่าแก่แห่งนี้ และทำให้ถนนเส้นนี้กลายเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์ค สำหรับถ่ายรูปแนวอาร์ต หรือฮิปสเตอร์ที่สาวก IG ไม่ควรพลาด
และในซอยเจริญกรุง 30 ยังเป็นที่ตั้งของ “Warehouse 30” โกดังฮิปแห่งใหม่ล่าสุดของกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งคอมมูนิตี้สร้างสรรค์ในย่านเจริญกรุง ผลงานของสถาปนิกชื่อดัง คุณดวงฤทธิ์ บุนนาค และคุณรังสิมา กสิกรานันท์ อดีตบรรณาธิการนิตยสาร Elle Decoration Thailand ที่เนรมิตโกดังเก่าในช่วงยุคกลางปี 40’s ให้เป็นพื้นที่สร้างสรรค์ ขนาด 600 เมตร ตอบโจทย์กิจกรรมหลากหลายรูปแบบของคนยุคใหม่ โดยมีทั้งหมด 7 โกดัง โทนสีเขียวเข้ม เพดานสูงโปร่ง ตกแต่งด้วยโคมไฟห้อยจากคานด้านบน และกระจกขนาดใหญ่ ประกอบไปด้วย Co-working Space, แบรนด์เสื้อผ้าแฟชั่นของคนไทย Lonely Two Legged Creature ที่เลือกใช้ผ้าคุณภาพดีนำเข้าจากญี่ปุ่น และคาเฟ่สุดชิคอย่าง Coffee Roaster by Li-bra-ry และ The Fox & The Moon Café คาเฟ่ซุป สลัด และเมนูเพื่อสุขภาพ สไตล์โฮมเมด นอกจากนี้ ยังเป็นพื้นที่ของ Warehouse 30 Market ตลาดนัดของโฮมเมด และพื้นที่อเนกประสงค์สำหรับจัดงานนิทรรศการ หรืองานอีเว้นต์อีกด้วย
“เจริญกรุง” แหล่งรวมความอร่อย
นอกจากย่านเจริญกรุง จะโดนใจสายอาร์ตแล้ว ยังเป็นย่านที่นักชิม ไม่ควรพลาด! เพราะย่านนี้อุดมไปด้วยร้านอาหารอร่อยๆ มากมาย ที่สำคัญราคาสบายกระเป๋า ไม่ว่าจะเป็น “ข้าวขาหมูเจริญแสง” ที่จัดเนื้อหนังมาเต็ม พร้อมน้ำซุปที่หอมเครื่องเทศแบบสุดๆ “ร้านทิพหอยทอดภูเขาไฟ” ที่กรอบนอก นุ่มใน “โจ๊กปริ้นซ์ บางรัก” เนื้อข้าวละเอียดข้น พร้อมหมูสับปรุงรส และ “ประจักษ์เป็ดย่าง” เนื้อนุ่ม หนังกรอบ ตำนานโอชาความอร่อย สืบทอดยาวนานกว่า 100 ปี แห่งย่านเจริญกรุง
“เจริญกรุง” แหล่งรวมความเจริญ
เจริญกรุง เป็นถนนสายการค้า จะเห็นได้ว่ามีเส้นทางเชื่อมต่อกับย่านการค้าอื่นๆ เช่น สำเพ็ง เยาวราช และพลับพลาไชย และยังเป็นย่านริมน้ำเจ้าพระยาที่เคยเป็นท่าเรือสินค้าหลักมาก่อน สมัยก่อน ที่ดินติดริมน้ำ หรือใกล้ริมน้ำ มีมูลค่าสูงเนื่องจากเรามักสัญจรทางน้ำเป็นหลัก ถึงแม้ปัจจุบัน ยุคสมัยจะเปลี่ยนไป เราจะเดินทางโดยรถยนต์เป็นหลัก แต่พื้นที่ริมน้ำก็ยังมีมูลค่าสูงอยู่ดี เจริญกรุง ยังคงเป็นย่านธุรกิจการค้าที่มีความเจริญสมชื่อ เป็นย่านที่มีความอุดมสมบูรณ์ ทั้งอาหารการกิน แหล่งอำนวยความครบครัน ไม่ว่าจะเป็นโรงแรม ห้างสรรพสินค้า และคอมมิวนิตี้มอลล์ อย่าง Robinson, The Mall, Vanilla Moon, Big C, Home Pro, The Up และ Central พระราม 3 และยังมีสถานศึกษาชื่อดัง ได้แก่ โรงเรียนนานาชาติโชร์สเบอรี่ โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย โรงเรียนเซ็นโยเซฟบางรัก และโรงเรียนอัสสัมชัญบางรัก และที่สำคัญย่านนี้ยังเป็นที่ตั้งของ “เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์” (Asiatique The Riverfront) แลนด์มาร์คแห่งประวัติศาสตร์ ซึ่งเป็นโครงการริมแม่น้ำขนาดใหญ่ที่แรกของกรุงเทพฯ ที่รวมแหล่งช้อปปิ้ง อาหาร สถานที่ท่องเที่ยว กิจกรรมต่างๆ ภายในสถานที่เดียวกัน นอกจากนี้ ถนนเจริญกรุง ยังเชื่อมต่อกับ CBD ย่านธุรกิจที่สำคัญของกรุงเทพฯ อย่างถนนสาทร และสีลม และยังอยู่ไม่ไกลจาก BTS สะพานตากสินอีกด้วย (Source: Think of Living)
สำหรับโครงการอสังหาริมทรัพย์ในย่านนี้ มักจะมีโครงการคอนโดมิเนียมระดับไฮเอนด์ที่ชูจุดขายใกล้แม่น้ำ และใกล้เอเชียทีค ซึ่งมีราคาค่อนข้างสูง แต่หากเป็นโครงการคอนโดมิเนียม ที่ไม่ติดริมน้ำ แต่อยู่ใกล้เอเชียทีค ก็จะมีคอนโดมิเนียมโลว์ไรส์ Notting Hill The Exclusive เจริญกรุง คอนโดสไตล์ Modern Art Deco สูง 8 ชั้น จาก ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ ซึ่งอยู่ในซอยเจริญกรุง 93 ห่างจากเอเชียทีคเพียงแค่ 140 เมตร เท่านั้น ที่สำคัญยังมอบความเป็นส่วนตัวด้วยจำนวนยูนิตเพียงแค่ 132 ยูนิต เท่านั้น ซึ่งนับว่าได้กระแสตอบรับดีมากๆ ด้วยราคาที่ไม่สูงมาก ปัจจุบันราคาเริ่มต้นที่ 3.39 ล้าน* แถมช่วงนี้ยังจัดโปรโมชั่นแรง “โปรเหนือเมฆ” ผ่อนเบาๆ ล้านละ 999 บาท นาน 3 ปี พร้อมมอบส่วนลดกว่า 8 แสนบาท ภายใน 19-29 พ.ค. นี้ เท่านั้น
สำหรับใครที่สนใจ สามารถลงทะเบียนได้ที่นี่ https://goo.gl/QvFYQG
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 020 300 000
หากคุณมีเรื่องราวไลฟ์สไตล์ที่น่าสนใจ ที่ต้องการประชาสัมพันธ์ในเวบไซต์ Alive Around ของเรา ไม่ว่าจะเป็นการอัพเดทเทรนด์แฟชั่น ความงาม ร้านอาหาร คาเฟ่สุดชิค แหล่งท่องเที่ยว หรือสถานที่แฮงค์เอ้าท์สุดคูล เทรนด์การตกแต่งบ้าน งานศิลปะ การออกแบบสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ หรือแม้แต่ข่าวสาร และเกร็ดความรู้ในวงการอสังหาริมทรัพย์ งานอีเว้นท์ เทคโนโลยี แก็ดเจ็ตใหม่ล่าสุด ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ สามารถติดต่อกับทีม Admin ของเราได้ที่ www.alivearound.com โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น