การแจกแจงพันธุ์ปาล์มทั้งหมดเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยาก เนื่องจากมีพันธุ์ปาล์มมากกว่า 2,600 ชนิดทั่วโลก แต่ละชนิดมีลักษณะและการใช้งานที่แตกต่างกัน ต่อไปนี้คือตัวอย่างของพันธุ์ปาล์มที่น่าสนใจและพบเห็นได้บ่อย:
พันธุ์ปาล์มสามารถแบ่งออกเป็นสองกลุ่มหลักๆ ได้แก่ พันธุ์ดูรา (Dura) และพันธุ์พิสิเฟอรา (Pisifera) โดยแต่ละกลุ่มจะมีความแตกต่างกันในด้านลักษณะทางกายภาพ ผลผลิต และความต้องการสภาพแวดล้อม
พันธุ์ดูรา เป็นพันธุ์ที่มีกะลาหนา ผลมีขนาดใหญ่ เนื้อมีสีเหลืองเข้ม น้ำมันปาล์มที่ได้จะมีปริมาณกรดไขมันอิสระสูง ทนต่อโรคและแมลงได้ดี เหมาะสำหรับปลูกในพื้นที่ที่มีปริมาณน้ำฝนสูง
พันธุ์พิสิเฟอรา เป็นพันธุ์ที่ไม่มีกะลา ผลมีขนาดเล็ก เนื้อมีสีเหลืองอ่อน น้ำมันปาล์มที่ได้จะมีปริมาณกรดไขมันอิสระต่ำ ทนต่อความแห้งแล้งได้ดี เหมาะสำหรับปลูกในพื้นที่ที่มีปริมาณน้ำฝนต่ำ
พันธุ์ปาล์มน้ำมันที่ปลูกเชิงการค้าในปัจจุบันส่วนใหญ่จะเป็นพันธุ์ลูกผสมระหว่างพันธุ์ดูราและพันธุ์พิสิเฟอรา เรียกว่า พันธุ์เทเนอรา (Tenera) พันธุ์เทเนอรามีจุดเด่นคือ ให้ผลผลิตสูง ทนต่อโรคและแมลงได้ดี และสามารถปลูกได้ในพื้นที่ที่มีปริมาณน้ำฝนหลากหลาย
- ปาล์มมะพร้าว (Cocos nucifera): อาจเป็นปาล์มที่รู้จักกันดีที่สุด ใช้ผลมะพร้าวเป็นอาหารและเครื่องดื่ม
- ปาล์มออยล์ (Elaeis guineensis): ปลูกเพื่อผลิตน้ำมันปาล์ม ใช้ในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องสำอาง
- ปาล์มทะเล (Pritchardia spp.): พบทั่วไปในหมู่เกาะแปซิฟิก มีใบที่สวยงาม
- ปาล์มเดท (Phoenix dactylifera): ปลูกเพื่อผลิตลูกตาล มีความสำคัญทางเศรษฐกิจในหลายประเทศ
- ปาล์มซาโก (Metroxylon sagu): ใช้เป็นแหล่งผลิตแป้งซาโก
- ปาล์มวาซิงโตเนีย (Washingtonia spp.): มีลักษณะใบที่ยาวและแข็ง ใช้เป็นต้นไม้ประดับ
- ปาล์มแอเรก้า (Areca catechu): ปลูกเพื่อใช้เป็นเมล็ดพืช (เบติลนัท) ซึ่งมีผลกระทบต่อสุขภาพ
- ปาล์มลิปสติก (Cyrtostachys renda): มีลำต้นสีแดงซึ่งทำให้โดดเด่นและน่าสนใจ
- ปาล์มฟิชเทล (Caryota spp.): มีใบที่คล้ายหางปลา
- ปาล์มโบทเทิล (Hyophorbe lagenicaulis): มีลำต้นที่เหมือนรูปขวด
แต่ละชนิดมีลักษณะเฉพาะที่เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมและการใช้งานที่แตกต่างกัน จึงทำให้ปาล์มเป็นหนึ่งในพืชที่มีความหลากหลายมากที่สุดในโลก.