ชีวิตสมบูรณ์แบบใจกลางเมือง
แค่ฝันเฟื่อง หรือเป็นเรื่องที่มีอยู่จริง?
ปฏิเสธไม่ได้ว่าทุกวันนี้เราทุกคนต่างก็แหวกว่ายกันอยู่ในวังวนของการตามหาชีวิตที่สมบูรณ์แบบ เราต่างทุ่มเทพยายามอย่างหนักเพื่อให้ได้เป็นเจ้าของเงินจำนวนมาก มากพอที่จะทำให้เรารู้สึกว่าไม่ได้ขาดอะไรที่ต้องการไป แต่แล้วสิ่งที่พบก็คือ ไม่ว่าเราจะพยายามมากแค่ไหน เราก็ยังคงรู้สึกว่าไม่ได้เข้าใกล้ “ชีวิตสมบูรณ์แบบ” ที่ฝันไว้อยู่ดี เพราะแม้เราจะมีเงินแล้ว เราก็ยังหนีไม่พ้นปัญหารถติด หนีไม่พ้นมลภาวะเป็นพิษที่ทุกวันนับจะทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ หนีไม่พ้นปัญหาสุขภาพ หนีไม่พ้นปัญหาอาชญากรรม และหนีไม่พ้นข่าวคราวร้ายๆ แย่ๆ ที่บั่นทอนกำลังใจในชีวิต ฯลฯ ซึ่งปัญหาเหล่านี้ได้บ่มเพาะอยู่ในจิตใจจนกลายเป็นเมล็ดพันธุ์แห่งความเศร้าที่ทำให้เราเข้าใกล้การมีชีวิตสมบูรณ์แบบได้ยากขึ้น ดังสะท้อนให้เห็นได้ไม่มากก็น้อยจากรายงานความสุขสากลประจำปี 2561 (World Happiness Report 2018) ที่ประเทศไทยเราอยู่ในอันดับที่ 46 ของโลก ลดลงจากปีก่อนถึง 14 อันดับ
แล้วชีวิตที่สมบูรณ์แบบต้องประกอบด้วยอะไรบ้าง?
เอาจริงๆ คงไม่มีใครสามารถตอบได้แน่ชัดหรอกว่า ชีวิตที่สมบูรณ์แบบนั้นเป็นแบบไหน และมันต้องการองค์ประกอบอะไรบ้างถึงจะทำให้เรามีชีวิตที่ใกล้เคียงกับคำว่าสมบูรณ์แบบมากที่สุด แต่ถ้าลองเอาปัจจัยทุกอย่างในชีวิตที่ทำให้คนเรามีความสุขได้มากางออกดู ก็น่าจะพอมองเห็นจิ๊กซอว์ความสุข ความสมบูรณ์แบบในชีวิตได้ชัดเจนมากขึ้น ซึ่งวันนี้ AliveAround จะพาทุกคนไปสำรวจจิ๊กซอว์ของความสมบูรณ์แบบในชีวิตกัน เพื่อให้ความฝันที่อยากจะมีชีวิตสมบูรณ์แบบใจกลางเมืองอันวุ่นวายนี้นั้น ไม่ใช่ความฝันอีกต่อไป!!
มีเงินพอใช้
จะไม่พูดถึงเรื่องนี้ก็ไม่ได้ เพราะถึงแม้เงินจะซื้อทุกอย่างไม่ได้ แต่ถ้าชีวิตเรา No Money ก็คงเป็นเรื่องยากที่เราจะสามารถใช้ชีวิตอยู่ในสังคมเมืองที่ทุกอย่างมีค่าและมีราคาได้อย่างมีความสุข ดังนั้น เราจึงจำเป็นต้องวางแผนการเงินให้ดี วางแผนการเงินให้เป็น จึงจะสามารถมองเห็นเส้นทางของการมีชีวิตสมบูรณ์แบบใจกลางเมืองได้อย่างชัดเจน เอาจริงๆ เราไม่จำเป็นต้องรวยล้นฟ้าเป็นมหาเศรษฐี แค่มีเงินพอใช้ มีเงินพอที่จะทำให้เรามีความสุขได้แบบพอดีๆ แค่นั้นก็เพียงพอแล้ว หลายครั้งในวิถีชีวิตของคนเมือง เราก็มักปล่อยใจตัวเองไปกับเรื่องของการใช้จ่ายที่เกินตัวจนเกินไป ทั้งที่จริงๆ แล้วเราไม่จำเป็นต้องจ่ายมากขนาดนั้นก็ได้ ก็สามารถมีความสุขและยิ้มได้เหมือนกัน ข้าวแกงอร่อยๆ กาแฟดิฟคาเฟ่ริมทาง เสื้อผ้าตลาดนัด ข้าวต้มโต้รุ่ง ฯลฯ ชีวิตสมบูรณ์แบบใจกลางเมือง ไม่ได้จำกัดเฉพาะแค่กับคนที่มีเงินเหลือใช้ แต่เป็นชีวิตที่ใครก็สามารถมีได้…ถ้าใช้เงินเป็น!!
ไม่ต้องอาศัยบ้านใครอยู่
พื้นที่ในเมืองกรุงนับวันจะยิ่งเหลือน้อยลงไปทุกทีๆ ถ้าความสะดวกสบายทุกอย่างถูกรวมให้กระจุกอยู่ที่นี่ ถ้าสิ่งที่เราคิดว่ามันทำให้เรามีความสุขรวมอยู่ใจกลางเมืองแห่งนี้ เราก็จำเป็นต้องอยู่ที่นี่เท่านั้นถึงจะมีความสุข แต่การที่ต้องไปเช่าบ้านไปเช่าคอนโดเขาอยู่ มันก็ไม่อาจทำให้เรามีความสุขกายสบายใจได้อย่างเต็มที่ เพราะผ่อนไปแต่ละเดือน สุดท้ายบ้านหรือคอนโดนั้นมันก็ไม่ใช่ของเราอยู่วันยังค่ำ ดังนั้น สำหรับใครก็ตามที่แสวงหาชีวิตสมบูรณ์แบบใจกลางเมืองแล้วล่ะก็ เมื่อคุณมีเงินพอใช้เมื่อไหร่ ก็จงมองหาบ้านที่ใช่ คอนโดที่ชอบให้ดี แล้วลงทุนเป็นเจ้าของมันซะ อย่ารอช้าให้ราคามันพุ่งขึ้นไปอีก เพราะอย่างน้อยถึงแม้การซื้อบ้านซื้อคอนโดจะทำให้เราเป็นหนี้ แต่มันก็เป็นหนี้ที่ทำให้เรามีบ้านเป็นของตัวเองสักที และที่สำคัญเมื่อเวลาผ่านไปมูลค่ามันก็จะยิ่งเพิ่มขึ้น จงอย่าปล่อยให้ความกลัว ความไม่กล้ายอมวางแผนซื้อบ้านเป็นของตัวเองมาทำให้เราต้องนั่งเสียดายภายหลังว่า รู้งี้ซื้อตั้งแต่ตอนนั้นดีกว่า
ไม่ต้องต่อสู้รถติด
นี่คือที่สุดของการบั่นทอนความสมบูรณ์แบบสำหรับชีวิตใจกลางเมือง ทั้งๆ ที่คนส่วนใหญ่ก็มีรถคันแพงขับ มีบ้านเป็นของตัวเอง มีเงินพอใช้ แต่พวกเขาเหล่านั้นก็ยังวนเวียนอยู่กับการหัวเสียหัวร้อนบนท้องถนน ต้องไปทำงานสาย ต้องถูกประเมินแย่ ต้องโดนตัดโบนัส ต้องเสียงานเสียการ และทำโอกาสหลายต่อหลายอย่างหล่นหายไปพร้อมกับเวลาในการเดินทางที่ควบคุมไม่ได้ ดังนั้น จิ๊กซอว์สำคัญชิ้นหนึ่งสำหรับชีวิตสมบูรณ์แบบใจกลางเมือง จึงหมายถึงการได้ครอบครองพื้นที่ที่อยู่อาศัยที่ทำให้เราสามารถเดินทางไปไหนมาไหนได้สะดวกสบายที่สุด และไม่หยุดเราไว้จากเป้าหมายที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ที่ใกล้ทางด่วน ใกล้ขนส่งมวลชนสาธารณะ รถไฟฟ้า รถตู้ แอร์พอร์ตลิงค์ อะไรก็ได้ที่สามารถทำให้ชีวิตเราไปถึงจุดหมายได้โดยสะดวกที่สุด สถานที่ไหนก็ได้ที่ทำให้เราสามารถควบคุมและบริหารเวลาในการเดินทางได้มากที่สุด เพื่อให้เราเหลือเวลาในการใช้ชีวิตของตัวเอง ได้ใช้ชีวิตกับคนสำคัญของเราอย่างมีความสุขได้มากที่สุด นั่นแหละคือสิ่งที่จะทำให้เราเขยิบเข้าใกล้กับคำว่า Perfect Living
ได้อยู่ใกล้ชิดธรรมชาติ
ทั้งๆ ที่ธรรมชาติคือบ้านที่ดีที่สุดสำหรับสิ่งมีชีวิต แต่ทุกวันนี้ชีวิตคนเราโดยเฉพาะในเมืองกรุงกลับยิ่งถอยห่างออกไปจากธรรมชาติมากขึ้น เราแทบจะมองไม่เห็นพื้นที่สีเขียวใจกลางกรุงสักเท่าไร ซึ่งผลกระทบที่ชัดเจนที่สุดก็เป็นเรื่องของมลภาวะทางอากาศ ที่พอขาดต้นไม้แล้ว มนุษย์กรุงก็สูดดมควันพิษเข้าสู่ร่างกายมากขึ้น ข่าวปัญหาฝุ่นละอองในอากาศเกินมาตรฐานมีให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง สิ่งเหล่านี้คือสัญญาณเตือนถึงภาวะถดถอยของคุณภาพชีวิตในเมืองกรุงได้อย่างดีเยี่ยม จะมีความหมายอะไรถ้าเรามีทุกอย่างพร้อม แต่กลับไม่ได้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่เป็นมิตรต่อสุขภาพเรา ดังนั้น หากปรารถนาอยากจะมีชีวิตสมบูรณ์แบบใจกลางเมืองแล้วล่ะก็ เราก็จำต้องหาพื้นที่สีเขียวให้กับชีวิตให้ได้ อย่าปล่อยให้ตัวเองอาศัยอยู่ห่างไกลจากธรรมชาติเด็ดขาด ซึ่งถ้าหาพื้นที่สีเขียวในเมืองไม่เจอ ทางที่จะทำให้เราเจอชีวิตสมบูรณ์ได้ก็คือ ต้องร่วมมือกันสร้าง ร่วมมือกันปลูก พื้นที่สีเขียวผืนใหม่ขึ้นมา ไม่ใช่แค่เพื่อเราเท่านั้น แต่เพื่ออนาคตลูกหลานรุ่นต่อไปของเราด้วย
ไม่ตัดขาดเทคโนโลยี
เป็นความจริงที่เราต้องทำความเข้าใจว่า โลกกำลังพัฒนาไปอย่างที่ไม่มีวันหวนกลับอีกแล้ว ปัจจุบันแม้เทคโนโลยีจะเข้ามามีบทบาทกับชีวิตคนส่วนใหญ่ แต่ก็ยังมีคนอีกมากที่ยังใช้ชีวิตอยู่อย่างยากลำบากกับเทคโนโลยี ยังมีอีกหลายคนที่ปรับตัวไม่ได้กับความก้าวหน้าของโลก จนทำให้ความสุขในชีวิตลดน้อยลง ซึ่งถ้าเราจะบอกว่าบางอย่างไม่จำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีก็ได้นั่นก็ไม่ผิด แต่ขอให้ลองคิดดูว่า โลกจะไม่ได้หยุดอยู่กับเรา โลกจะพัฒนาไปเรื่อยๆ แต่ถ้าเราหยุดอยู่กับที่ เราเป็นเพียงคนเดียวที่ไม่เปลี่ยนตามโลก มันก็คงยากที่จะใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข ไม่ว่าเราจะเป็นใคร เคยชินกับวิถีชีวิตแบบไหนมาก่อน ถ้าเราอยากจะมีชีวิตสมบูรณ์แบบใจกลางเมืองที่เฟื่องฟูไปด้วยเทคโลโลยีแล้วล่ะก็ เราจำเป็นต้องเปิดใจปรับตัวไปกับมัน หัดเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกับเทคโนโลยีให้ได้ ไม่ใช่เพื่อให้ไม่เป็นตัวเอง แต่เพื่อให้เราเป็นตัวเองในแบบที่เข้ากับโลกได้ดีด้วย
แวดล้อมด้วยสังคมดีๆ
ขึ้นชื่อว่ามนุษย์ ความสุขที่สุดไม่ใช่การใช้ชีวิตอยู่คนเดียวแน่ๆ เพราะถึงต่อให้เราจะมีความสุขกับชีวิตโสด แต่เราก็ไม่อาจมีความสุขได้บนความโดดเดี่ยวอยู่ดี เราถูกกำหนดมาให้เป็นสิ่งมีชีวิตในระบบสังคม ที่ต้องพึ่งพาอาศัยกัน ซึ่งสายสัมพันธ์และการยอมรับซึ่งกันและกันก็เป็นสิ่งที่เติมเต็มให้ชีวิตมีความสุขมากขึ้นและสมบูรณ์แบบมากขึ้น นั่นเองที่ทำให้อีกชิ้นส่วนสำคัญหนึ่งของการมีชีวิตสมบูรณ์แบบใจกลางเมือง คือการได้ใช้ชีวิตอยู่รายล้อมในสภาพสังคมที่ดี อันได้แก่ การมีคนใกล้ตัวที่น่ารัก การมีมิตรที่น่าคบ การได้อยู่ในสังคมที่เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่เกื้อกูลกัน ได้อยู่ในสังคมที่ทุกคนเคารพซึ่งกันและกัน เข้าใจและเห็นใจกัน นอกจากนั้นก็ยังหมายรวมไปถึงการได้อยู่ใน สภาพแวดล้อมที่พร้อมทุกอย่างในแง่ของสาธารณูปโภคด้วย ลองคิดดูว่ามันจะดีขนาดไหน ถ้าเราในอยู่ในบ้านที่รายล้อมไปด้วยเพื่อนบ้านที่ดี มีสวนสาธารณะใกล้ๆ มีโรงเรียนใหญ่ไว้สำหรับลูกหลานใกล้บ้าน มีโรงพยาบาลอยู่ใกล้เคียง มีร้านอาหารอร่อย ห้างสรรพสินค้า มีคาเฟ่น่านั่ง มี Co-Working Space บรรยากาศดีๆ ฯลฯ การมีทุกอย่างที่ชีวิตเราต้องการอยู่รายล้อม อาจดูเป็นเรื่องเพ้อฝัน แต่เรื่องจริงก็คือเราต่างก็อยากมีชีวิตแบบนั้น ซึ่งมันก็มีอยู่จริงในเมืองนั่นแหละ แค่เราต้องหาให้เจอเท่านั้นเองว่า มันอยู่ที่ไหน
มีหน้าที่การงานที่มั่นคง
นี่คือจิ๊กซอว์ชิ้นสุดท้ายสำหรับบทความนี้ เพราะชีวิตสมบูรณ์แบบคงไม่ใช่ชีวิตที่ไม่ต้องทำงานใดๆ แน่ เพราะการที่ยังได้ทำงานคือสิ่งที่ทำให้ชีวิตเรายังมีความหมายอยู่ ยังตื่นเต้นอยู่ และยังได้พัฒนาตัวเองอยู่ มหาเศรษฐีทุกคนบนโลก ไม่ว่าจะเป็นใคร สังเกตไหมว่าถึงเขาจะรวยขนาดไหน เขาก็ยังคงทำงานอยู่ แต่ไม่ได้ทำงานเพื่อเงินอย่างเดียว แต่พวกเขาทำงานเพื่อโลกใบนี้ เพื่อคนรุ่นต่อไป และเพื่อเติมเติมความสุขใจให้กับชีวิตของเขาด้วย ว่าเขาได้เป็นคนที่มีความหมายต่อโลกใบนี้ ดังนั้น สำหรับชีวิตสมบูรณ์แบบใจกลางเมือง ทั้งหมดจะเกิดขึ้นได้หรือไม่ “การงานที่มั่นคง” ก็เป็นเหมือนดั่งสะพานที่ทอดยาวเราไปสู่จุดนั้น เป็นสะพานที่ทำให้ชีวิตมีความหมาย มีเงิน มีปัจจัยที่ทำให้เราเดินไปถึงฝั่งได้พร้อมกันกับคนสำคัญคนที่เราอยากพาไปด้วย ทั้งนี้ แทบจะนึกไม่ออกเลยว่า ถ้าไม่มีงานที่มั่นคงแล้ว อย่าว่าแต่ชีวิตที่สมบูรณ์แบบใจกลางเมืองเลย แค่จะใช้ชีวิตต่อไปอย่างไรให้มีความสุข ก็ยังเป็นเรื่องที่ยากมากๆ
Perfect Living มีอยู่จริง ไม่ใช่แค่ฝัน
ถ้าจะเอาโดยละเอียดจริงๆ แล้ว ปัจจัยที่จะทำให้คนเรามีความสุขมีชีวิตที่สมบูรณ์แบบได้ ก็คงจะมีมากกว่านี้ แต่ 7 สิ่งที่กล่าวมาอาจถือได้ว่าเป็นพื้นฐานสำคัญที่จะทำให้เราก้าวไปถึงความสมบูรณ์แบบได้มากยิ่งขึ้น ซึ่งถ้าตัดเรื่องเงินกับงานออกไป สิ่งที่เหลืออยู่แท้จริงแล้วมันก็รวมกันเป็น “ที่อยู่อาศัย” นั่นแหละ ที่อยู่อาศัยที่เป็นของเราเอง ที่อยู่อาศัยที่ตั้งอยู่บนทำเลที่ดี ทำให้เราเดินทางได้สะดวก ที่อยู่อาศัยที่อยู่ใกล้ชิดกับธรรมชาติ ที่อยู่อาศัยที่ทันสมัยมีเทคโนโลยีครบครัน และเป็นที่อยู่อาศัยที่รายล้อมด้วยสังคมที่ดี สิ่งอำนวยความสะดวกที่ตอบโจทย์ครบทุกมิติ ก็ในเมื่อชีวิตคือการดำรงอยู่ แล้วคนเราจะไปอยู่ที่ไหนได้ล่ะนอกจากบ้าน ดังนั้น ชีวิตสมบูรณ์แบบใจกลางเมืองจึงมีอยู่จริง คืออยู่ที่บ้านของเราเองนั่นแหละ ซึ่งก็มีแต่เราเองเท่านั้นที่จะต้องเป็นคนเลือก ต้องเป็นคนหาให้เจอว่าที่ไหนกันแน่ ที่จะเป็นบ้านที่ใช่ เป็นสถานที่ที่เป็น Platform ของความสุขที่ครบครัน จนหลอมรวมกันเป็น Perfect Living Platform เป็นชีวิตที่สมบูรณ์แบบ…ในแบบฉบับของตัวเราเอง
เตรียมตัวให้พร้อมกับการค้นหานิยามแห่งชีวิตสมบูรณ์แบบใจกลางเมือง เพื่อค้นพบ Perfect Living Platform ที่จะหล่อหลอมให้ทุกวินาทีในชีวิตเต็มเปี่ยมไปด้วยควมสุข กับ “Park Origin” โครงการใหม่จากออริจิ้น ที่จะมาสร้างปรากฎการณ์ครั้งสำคัญในแบบที่ไม่มีใครเคยเห็นมาก่อน ลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิพิเศษก่อนใครได้ที่ www.parkorigin.co.th
หากคุณมีเรื่องราวไลฟ์สไตล์ที่น่าสนใจ ที่ต้องการประชาสัมพันธ์ในเวบไซต์ Alive Around ของเรา ไม่ว่าจะเป็นการอัพเดทเทรนด์แฟชั่น ความงาม ร้านอาหาร คาเฟ่สุดชิค แหล่งท่องเที่ยว หรือสถานที่แฮงค์เอ้าท์สุดคูล เทรนด์การตกแต่งบ้าน งานศิลปะ การออกแบบสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ หรือแม้แต่ข่าวสาร และเกร็ดความรู้ในวงการอสังหาริมทรัพย์ งานอีเว้นท์ เทคโนโลยี แก็ดเจ็ตใหม่ล่าสุด ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ สามารถติดต่อกับทีม Admin ของเราได้ที่ www.alivearound.com โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น