13 ตุลา รำลึกรัก เหตุผลที่ทำให้คนไทยยังรัก ในหลวง ร.9 ไม่ลืมเลือน
ว่ากันว่าเวลามักผ่านไปเร็วเสมอ ซึ่งความจริงก็เป็นแบบนั้นนั่นแหละ เพราะเผลอไม่นาน วันที่ 13 ตุลา ก็กำลังจะเวียนมาหาเราอีกแล้ว ซึ่งหากเป็นเมื่อก่อน 13 ตุลาคม อาจไม่ได้สำคัญ ไม่ได้มีความทรงจำอะไรกับเรามากนัก แต่เหตุการณ์การจากไปของในหลวงรัชกาลที่ 9 เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2559 ได้ทำให้วันนี้กลายเป็นวันสำคัญของคนไทยทุกคนไปตลอดกาล ซึ่งแม้ว่านี่กำลังจะครบรอบ 2 ปีแล้ว แต่ทุกอย่างก็ยังคงเหมือนเพิ่งเกิดขึ้น เรายังคงเห็นเรื่องราวของพระองค์ได้เสมอ รูปที่มีอยู่ทุกบ้านก็ยังคงมีอยู่อย่างนั้นไม่เปลี่ยนไป ซึ่งเพื่อเป็นการรำลึกถึงพระมหากษัตริย์ผู้เป็นที่รักยิ่งของปวงชนชาวไทย ในวาระครบรอบวันสวรรคต และเพื่อเป็นการตอบคำถามที่คนรุ่นหลัง หรือคนนอกประเทศอาจยังสงสัยว่า เพราะเหตุใดทำไมคนไทยจึงรักในหลวง วันนี้แอดมินจึงจะพาไปดู 4 เหตุผล จากหลายๆ ร้อยพันเหตุผล ที่ทำให้พระองค์จะยังสถิตอยู่ในใจคนไทยนิรันดร์
1.
ทรงรักคนไทยด้วยใจที่ไม่แบ่งแยก
ไม่มีชนชั้น ไม่เลือกฐานะ ไม่มีข้อแม้กีดกั้น สำหรับในหลวงรัชกาลที่ 9 แล้วนั้น พระองค์ทรงมอบความรักของพระองค์ให้กับพสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่า ภาพการเสด็จเยี่ยมเยือนประชาชนในถิ่นทุรกันดาร ภาพความเป็นกันเองที่ทรงมีให้ต่อประชาชนของพระองค์ เป็นสิ่งที่เราเห็นกันจนชินตา พระองค์ทรงมอบความรักให้กับประชาชนของพระองค์แบบไม่มีข้อแม้ สำหรับพระองค์แล้ว ทุกคนที่เกิดในผืนแผ่นดินไทย ไม่ว่าจะเชื่อชาติ เผ่าพันธุ์ ศาสนาไหน ล้วแต่เป็นครอบครัวเดียวกัน และตลอดระยะเวลา 70 ปี 126 วัน ในการครองราชย์นั้น ก็ไม่เคยมีเลยสักวัน ที่พระองค์จะเห็นอะไรสำคัญกว่า ความสุขของพสกนิกรภายใต้ร่มพระบารมี ดั่งที่พระองค์เคยให้สัญญาไว้ว่า “เราจะปกครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขของประชาชนชาวสยาม”
ที่มาภาพ https://news.mthai.com/general-news/524721.html
2.
ทรงเป็นผู้ให้ที่ไม่เคยหยุดพัก
ในช่วงชีวิตหนึ่งของใครที่เกิดทันในรัชสมัยของพระองค์ หากถามว่ามีใครเคยเห็นในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงหยุดพักว่างเว้นจากการทรงงานบ้างมั้ย? เชื่อเหลือเกินว่าคงไม่มีใครเคยเห็นภาพนั้น เพราะแม้กระทั่งในช่วงที่พระองค์ทรงเข้ารับการรักษาอยู่ในโรงพยาบาลศิริราช ดินสอ สมุด แผนที่ และเอกสารต่างๆ ก็ยังคงอยู่รอบกายพระองค์เสมอ กว่า 4,000 โครงการที่พระองค์ทรงดำริ คิดค้น และสร้างสรรค์ขึ้นมาเพื่อบำบัดทุกข์บำรุงสุขปวงชนชาวไทย ไม่เคยมีแม้แต่วินาทีเดียว ที่พระองค์จะไม่คิดถึง “การให้” ที่จะทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของพวกเราดีขึ้น จะเป็นไปได้ไหมที่จะมีใครทำดีกับเรา ให้สิ่งดีๆ กับเราอย่างต่อเนื่องยาวนานโดยไม่ได้รับสิ่งตอบแทน และหากมีคนๆ นั้น เราคิดว่าเราจะห้ามใจไม่ให้รักและรู้สึกดีเขาได้อย่างไร นั่นจึงเป็นส่วนหนึ่งของเหตุผลว่าทำไม ไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหน คนไทยก็จะยังคงรัก และระลึกถึงในหลวงรัชกาลที่ 9 ตลอดไปไม่ลืมเลือน
3.
ทรงธำรงตนอยู่ในทศพิธราชธรรม
หากพูดถึงการปกครองแล้ว คำๆ นี้ย่อมมาพร้อมอำนาจ ที่มักมีผลต่อความรู้สึกของผู้คนใต้ปกครองไม่มากก็น้อย เป็นการยากเหลือเกินที่คนเราจะรู้สึกดีแบบเต็มที่ต่อการอยู่ใต้อำนาจใคร เพราะมนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่รักอิสระ หากแต่การปกครองประเทศของในหลวงรัชกาลที่ 9 นั้นต่างออกไป พระองค์ไม่ได้ทรงใช้อำนาจปกครอง แต่พระองค์ทรงใช้ความรักความเมตตาในการปกเกล้าคุ้มครองและดูแลประชาชนของพระองค์ ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ผู้ทรงธรรม ทรงธำรงตนอยู่ในธรรมะของพระราชา ด้วยทศพิธราชธรรมอย่างที่ไม่ใช่การถูกบังคับ เพราะหน้าที่ แต่ทรงเป็นเช่นนั้นด้วยหัวใจและความรู้สึกของพระองค์เอง พระองค์ทรงเป็นผู้ให้ สำทั้งกาย วาจา ใจ มีความซื่อตรง อ่อนโยน ไม่โกรธ ไม่เกลียด ไม่เบียดเบียน มีความอดทนต่อทุกอุปสรรคปัญหา ให้ความยุติธรรมไม่ กับทุกคนอย่างเท่าเทียม และที่สำคัญคือ พระองค์ทรงมีความเพียรในการในที่จะรักษาคุณความดีทุกอย่างไว้ และเพียรทุ่มเทในการที่จะทำให้ประชาชนของพระองค์อู่ดีกินดี และมีความสุข
ที่มาภาพจาก https://bit.ly/2IHubbr
4.
ทรงทำให้ชีวิตคนไทยดีขึ้นได้จริงๆ
ภาพการรวมตัวกันใส่เสื้อเหลืองเพื่อร่วมเฉลิมพระเกียรติพระองค์ ภาพการรวมตัวกันใส่ชุดดำเพื่อแสดงความอาลัยให้กับพระองค์ ภาพความสามัคคีของคนในบ้านเมืองที่ร่วมกันทำดีเพื่อพ่อ คือ หลักฐานสะท้อนได้ดีว่า คนไทยทั้งประเทศจงรักภักดีในพระองค์มากแค่ไหน แต่เหนือสิ่งอื่นใดที่กว่าจะเกิดเป็นภาพเหล่านี้ได้ นั่นก็ล้วนมาจากการที่พระองค์ได้พิสูจน์ให้ประชาชนรู้เห็นอย่างแท้จริงแล้วว่า พระองค์ทรงทำเพื่อประชาชนจริงๆ ด้วยพระราชกรณียกิจนานัปการ ด้วยกว่าหลายร้อยล้านพันย่างก้าว ที่พระองค์ทรงลงมือเอง ลงแรงเองทุกอย่าง เพื่อช่วยให้ประชาชนของพระองค์มีความสุขมากขึ้น ครั้งหนึ่งเคยมีเรื่องเล่าว่า เมื่อคราวที่ต้องเสด็จไปเรียนยังต่างประเทศ ในขณะที่รถพระที่นั่งกำลังแล่นไป ก็มีเสียงของประชาชนที่มารอส่งเสด็จคนหนึ่งตะโกนขึ้นมาว่า “ในหลวงอย่าละทิ้งประชาชน” ซึ่งในหลวงรัชกาลที่ 9 ได้ทรงเขียนบันทึกส่วนพระองค์ไว้ถึงเหตุการณ์ครั้งนี้ว่าพระองค์อยากจะร้องบอกเขาลงไปว่า “ถ้าประชาชนไม่ทิ้งข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะทิ้งประชาชนอย่างไรได้” ซึ่งตลอดระยะเวลา 70 ปีแห่งการครองราชย์ พระองค์ก็ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าพระองค์ไม่เคยละทิ้งประชาชนเลย ชีวิตควาเป็นอยู่ของพสกนิกรดีขึ้นด้วยความทุ่มเทของพระองค์ หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงได้ช่วยเหลือและสร้างความมั่นคงให้กับชีวิตผู้คนจำนวนมากทั้งบนผืนแผ่นดินไทย และไกลออกไปนอกประเทศ ซึ่งคุณูปการเหล่านี้แหละที่ทำให้ทรงเป็นที่รักของคนไทยทั้งประเทศ และแม้วันนี้พระองค์จะจากไปแล้ว หากแต่ผลงานต่างๆ ที่ทรงสร้างไว้ ก็ยังคงอยู่สร้างประโยชน์ให้กับประเทศสืบไป คำสอนของพระองค์ที่ให้ไว้ ก็ยังคงนำทางสว่างให้แก่คนที่ยังไม่ละทิ้งพระองค์ เรียกได้ว่าสมกับคำที่พระองค์ว่าไว้เลยว่า ถ้าเราไม่ทิ้งพระองค์ พระองค์ก็จะไม่ทิ้งเรา
หากคุณมีเรื่องราวไลฟ์สไตล์ที่น่าสนใจ ที่ต้องการประชาสัมพันธ์ในเวบไซต์ Alive Around ของเรา ไม่ว่าจะเป็นการอัพเดทเทรนด์แฟชั่น ความงาม ร้านอาหาร คาเฟ่สุดชิค แหล่งท่องเที่ยว หรือสถานที่แฮงค์เอ้าท์สุดคูล เทรนด์การตกแต่งบ้าน งานศิลปะ การออกแบบสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ หรือแม้แต่ข่าวสาร และเกร็ดความรู้ในวงการอสังหาริมทรัพย์ งานอีเว้นท์ เทคโนโลยี แก็ดเจ็ตใหม่ล่าสุด ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ สามารถติดต่อกับทีม Admin ของเราได้ที่ www.alivearound.com โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น